สถานีต่อไป…สถานีพร้อมพงษ์

“ย่านพร้อมพงษ์” ย่าน luxury ที่เทียบได้กับ Orchard Road ย่อมๆ ของสิงคโปร์ เป็นศูนย์รวมห้างฯดังไว้ถึง 3 ห้างที่เชื่อมต่อกันด้วย sky walk “ย่านพร้อมพงษ์” ได้รับการยกระดับให้เป็นศูนย์กลางแหล่งช้อปปิ้งระดับโลกแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ “The EmDistrict” ซึ่งประกอบด้วย ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ โดยมีมูลค่าโครงการรวม 50,000 ลบ. ประกอบด้วยมีซูเปอร์แบรนด์ และแบรนด์เนมชั้นนำกว่า 400 แบรนด์
นอกจากความ prime จะอยู่ที่จำนวนแบรนด์เนมแล้ว ยังมีสถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีหลักของ BTS เส้นแรกในประเทศไทย
และนอกจากนั้นราคาที่ดินของย่านพร้อมพงษ์ ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ยปีละกว่า 10% ทำให้ย่านนี้เป็นอีกย่านของชนชั้นระดับ High end และชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยในตำแหน่งงานระดับผู้จัดการขึ้นไป


The Em District เป็นย่านศูนย์การค้าที่ขายสินค้าแบรนด์ High end ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ซึ่งประกอบไปด้วย Emporium ที่เพิ่งทำการ Renovate ใหม่ในปี 2558 และ เพิ่งเปิดตัว EmQuartier ไปในปี 2558 เช่นเดียวกัน และในอนาคตมีโครงการ EmSphere ที่เคลียร์พื้นที่ไว้แล้ว และจะเปิดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่รวมประมาณ 50 ไร่ และพื้นที่ใช้สอย 650,000 ตร.ม. โดยมีมูลค่าโครงการรวม 50,000 ลบ.เลยทีเดียว

EmSphere
เป็นหนึ่งในโครงการ The M District จะเปิดตัวเป็นอันดับสุดท้าย มีพื้นที่โครงการ 200,000 ตร.ม.
เป็นแหล่ง Shopping สไตล์ Hip ต่างจาก EmQuartier และ Emporium ที่รวมรวมสินค้าระดับ High end ไว้มากมาย




ซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ มีศักยภาพในการพัฒนาสูงกว่าและมีราคาต่อตารางเมตรสูงกว่าซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ โดยปรับขึ้นอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10% ทุกปี ปัจจุบันราคาเฉลี่ยสูงกว่าตารางวาละ 1 ลบ. ได้แก่ อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันที่ดินในซอยดังกล่าวแทบจะไม่มีที่ดินแปลงสวยให้พัฒนาอีกแล้ว โดยซอยฝั่งเลขคู่ยังคงมีพื้นที่ดินรอการพัฒนา และมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่างสวนเบญจสิริอยู่ด้วย
เปรียบเทียบราคาประเมินที่ดิน

จะเห็นได้ว่าถ.อโศก จะมีราคาต่อตร.ว แพงที่สุด รองลงมาคือทองหล่อ ซึ่งพร้อมพงษ์เป็นย่านที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ย่านนี้ ซึ่งเมื่อเทียบราคาประเมินจากทางราชการในช่วงปี 2555 – 2558 และปี 2559-2562 บริเวณถ.ทองหล่อและถ.พร้อมพงษ์จะมีราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 20% ส่วนอโศก จะปรับสูงขึ้นประมาณ 37%
ซึ่งพร้อมพงษ์ราคาจะปรับเพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปีเลยทีเดียว


พร้อมพงษ์เป็นแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ที่มาพำนักและทำธุรกิจในประเทศไทยจำนวนมากตั้งแต่หลังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงมีร้านอาหารญี่ปุ่นและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชาวญี่ปุ่นอย่างครบครัน จนเรียกว่า “Japanese Town” ที่รวมรวบร้านอาหารญี่ปุ่นมีชื่อเสียงมากมาย รวมถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตและแหล่งจับจ่ายใช้สอยอื่นๆ เช่น UFM Fuji เป็นต้น


ในช่วงปีหลังๆ ที่ผ่านมา Expat ที่เข้ามาทำงานในไทย กระทรวงแรงงานได้ระบุว่า ณ สิ้นปี 2010 มีจำนวน Expat ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานได้ในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายกว่า 164,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัวจากปี 2002 และ 70% เข้ามาทำงานในตำแหน่งงานระดับผู้จัดการขึ้นไป และแรงงานที่ต้องอาศัยทักษะความชำนาญ เช่น งานวิชาชีพ (Professionals) จากข้อมูลโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มอาชีพข้างต้นมีเงินเดือนสูงได้ถึงราว 300,000 บ.


ซอยสุขุมวิท 39 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อซอยพร้อมพงษ์ มาจากพระนามของเจ้าของวังที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ซึ่งมีพระนามว่าพระองค์เจ้าพร้อมพงษ์อธิราช ดั้งเดิมเป็นหม่อมเจ้าจากราชสกุลสนิทวงศ์ ทำให้ละแวกนี้จึงเป็นที่พักอาศัยของตระกูลเก่าแก่ หรือ Old Money ซึ่งมีฐานะทางสังคมและมีความมั่งคั่งทางการเงินของประเทศ ทำให้บริเวณนี้เป็น Luxury Community โดยพร้อมพงษ์ยังคงหลงเหลือบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินของกลุ่มคน Old Money ให้เห็นอยู่บ้าง



ด้วยทำเลซอยสุขุมวิท 39 กลายเป็นย่านที่ตั้งของคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่บนทำเลที่มีกำลังซื้อสูง และมีอัตราการเติบโตของค่าเช่าประมาณ 5% ต่อปี ซึ่งลูกค้าพรีเมียมมีความพร้อมที่จะต่อสัญญาระยะยาวและสามารถปรับขึ้นค่าเช่าได้ ดังนั้นการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมในย่านพร้อมพงษ์ จึงถือเป็นมรดกล้ำค่าที่สร้างมูลค่าอย่างไม่มีวันที่สิ้นสุด ทำให้คุ้มค่ากับการอยู่อาศัย และเก็บรักษาไว้เพื่อมอบเป็น asset ให้ลูกหลาน









มาร์ค สุขุมวิท คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มูลค่ากว่า 6.5 พันล้านบาท ภายใต้การพัฒนาของ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยให้ความสำคัญหลักกับทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง อย่างเช่น พร้อมพงษ์ ถือเป็น Prime Location และยังเป็นผืนดินสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุด ถึง 3 ไร่ บนถ.สุขุมวิทและติดหน้าถ.สุขุ มวิท
โดยถือว่าสะดวกสบายในการเดินทางอย่างมาก ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์เพียง 30 ม. และซอยสุขุมวิท 39 ยังสามารถเชื่อมโยงไปยังซอยย่อยต่างๆ ทะลุออกถนนอโศก ถนนเพชรบุรี รวมถึงซอยทองหล่อได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนั้นห่าง ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ เพียง 100 ม.
และโครงการยังคงความสูงที่สุด ถึง 222 เมตร บนถนนสุขุมวิท ติด1ใน5 ของตึกที่สูงที่สุดในกรุ งเทพมหานคร แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ Legacy, Heritage และ Penthouse สง่างามด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘Diamond shape’
ส่วน Facilities ก็ให้อย่างจัดเต็มเลยทีเดียว ได้แก่ Swimming Pool, Whirlpool and Jacuzzi, Outdoor Terrace and Gazebo, Fitness Room, Aerobic & Yoga Studio, Kid’s Quarter, Multipurpose Room, Golf Simulator, Male & Female Steam & Sauna Rooms, Private Massage Room, Squash Court, Relaxation Terrace, Sky Cigar and Wine Bar, Sky Library, Sky Alcove, Sky Sunken Deck และ Sky Floating Deck, 400 square metres, Recreational Park และ Gallery Lobby เป็นต้น






สำหรับห้องตัวอย่างใหม่ (New Show Suite) บนชั้น 31 เป็นห้องขนาด 190 ตร.ม. ได้รับการออกแบบในสไตล์เมโทรโพลิแทน ลักซ์ (Metropolitan Lux) ซึ่งเป็นการนำความทันสมัยของเมือง สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่สง่างาม ผสมผสานกับงานตกแต่งภายในที่เน้นความหรูหรา เน้นความโปร่งโล่ง ด้วยฝ้าเพดานสูง 3-3.4 ม. พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน
ตกแต่งด้วยแบรนด์ระดับพรีเมียม เป็นต้นว่า ชุดครัวสุดหรูจากเยอรมนี แบรนด์พอกเกนโพล (Poggenpohl) พร้อมด้วยสุขภัณฑ์ชั้นนำ ฮันสโกรเฮอ (Hansgrohe)
หากพิจารณาในแง่การลงทุนอสังหาฯ ย่านพร้อมพงษ์ โครงการมาร์ค สุขุมวิท ณ ปัจจุบันมีการปรับเพิ่มกว่า 10% เมื่อเทียบราคา ณ วันแรกที่เริ่มเปิดจองที่ 270,000 บ./ตร.ม. ด้วยการลงทุนเพิ่มเติมจากธุรกิจอื่นในย่าน ส่งผลให้ราคาต่อตารางเมตรปรับเพิ่มขึ้นเป็น 320,000 บ./ตร.ม. หรือเฉลี่ยสูงขึ้นกว่า 20-25% ภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งจะปรับราคาขึ้นอีกเมื่อตึกสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ใน Q1 2017 นับเป็นสัญญาณที่ดีในการลงทุนเพื่ออยู่อาศัย
โดยกลุ่มชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยในเอเชียให้ความสนใจและจอง คิดเป็นอัตรากว่า 15 % ในขณะที่ลูกค้าไทยระดับเกรดเอ ได้เริ่มจับจองเพนส์เฮ้าส์ที่มีเพียง 7 ยูนิตซึ่งมีมูลกว่า 200 ลบ.จากพื้นที่เริ่มต้น 287 ตร.ม.