สรุปทุกประเด็นที่ควรรู้
โครงการ ภัสสร เกาะแก้ว

ภูเก็ต ถือได้ว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความเจริญทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ในประเทศไทย ทำให้มีผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มองเห็นโอกาสในการลงทุนในจังหวัดนี้ ซึ่ง Pruksa เจ้าตลาดอสังหาฯแนวราบ ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มาบุกตลาดบ้านระดับ Mid to high ในจังหวัดนี้เช่นเดียวกัน สำหรับโครงการที่เราจะเจาะลึกนั้นอยู่ภายใต้แบรนด์ ภัสสร เกาะแก้ว โดยแบรนด์ภัสสรจะเน้นการออกแบบสไตล์โมเดิร์น คลาสสิก (พฤกษามีบ้านสไตล์โมเดิร์นอยู่บ้างอย่างแบรนด์เดอะ แพลนท์)
ทำเลที่ตั้งของโครงการ อยู่ในซอยเกาะแก้ว 33 อยู่ใกล้กับถนนเทพกระษัตรี สามารถเข้าไปยังตัวเมืองภูเก็ตได้โดยง่าย สำหรับรูปแบบโครงการ เป็นประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในระดับราคาที่ 3.79 – 6 ลบ. ถือว่าเป็นโครงการบ้านในระดับกลางของจังหวัดภูเก็ต มีสไตล์ของบ้านตามแนวคิด Art Nouveau โดดเด่น เรียบหรู ตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีระดับ ” Living Success “ เดี๋ยวเราจะมาดูกันว่า รูปแบบโครงการและรูปแบบบ้าน จะเป็นอย่างไรกันครับ
Fact
Project Name : ภัสสร เกาะแก้ว
Developer : พฤกษา เรียลเอสเตส จำกัด (มหาชน)
Project Concept : Living Success สะท้อนการใช้ชีวิตที่เหนือกว่า
Location : ถ.เทพกระษัตรี ซ.เกาะแก้ว 33 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
Project area : 29-3-78 ไร่
No. of Units : 161 หลัง
House Type : บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด
Land area : เริ่มต้น 36 ตร.วา
Unit Mixed : Paradiz (142 ตร.ม.)
Re-fine (142 ตร.ม.)
Re-sense (134 ตร.ม.)
Re-life (121 ตร.ม.)
Facilities : Clubhouse 2 Floor , Fitness, Swimming pool, Garden, Access control, 24-hours security , CCTV
Expected Completion : คาดว่าแล้วเสร็จ 2562
Common Expense : ราคาเริ่มต้น 3.79 ลบ. , ค่าส่วนกลาง = 35 บ./ตร.ม. , เงินจอง = 10,000 บ. , ทำสัญญา = 10,000 บ.
ดูภาพรวม สิ่งไหนเด่น
ข้อเด่น
– ทำเล : ดี เชื่อมต่อเส้นทางลัดสู่กะทู้-ไปยังหาดป่าตอง
– ถนน : เข้าออกได้หลายทาง ถนนเกาะแก้ว 33, ถนนเกาะแก้ว 23
– ส่วนกลาง : ใหญ่ รองรับการใช้งาน บนพื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 23 ตร.วา
– ผังโครงการ : เข้าถึงบ้านง่าย หันทิศเหนือ ใต้ ไม่ร้อน ลมดี
– บ้าน : วางผังลงตัว จัดฟังค์ชั่นง่าย พื้นที่กว้าง แสงธรรมชาติเข้าถึึง
– วัสดุ : มาตรฐาน ตามรูปแบบโครงการของพฤกษา
– ราคา : เหมาะสม ระดับราคา 3.79 – 6 ลบ.
ข้อสังเกต
– ดีไซน์ : ซุ้มประตูสวย ดูหรู ดูเรียบแม้ใส่ลูกเล่นเหล็กดัดสไตล์ Art Nouveau
– สภาพแวดล้อม : ล้อมด้วยหมู่บ้านจัดสรร วิวภูเขา แต่ไม่มีร้านค้าใกล้เคียง
– ถนน : ถนน เกาะแก้ว 33 กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างขยายทาง
บทสรุป
โดยภาพรวมแล้วถือว่าเป็นโครงการที่ได้มาตรฐานครอบคลุมทุกด้านอย่างลงตัว โดดเด่นที่ระเบียงห้องนอนที่ 2 ใหญ่ แต่หากมองในเรื่องของทำเลที่มีศักยภาพ เดินทางสะดวกใกล้ถนนใหญ่ อยู่ในโซนที่กำลังพัฒนาซึ่งในอนาคตรถไฟฟ้ารางเบามีสถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการ ไม่ไกลจากย่านการค้าในเมือง ทั้ง Central Phuket และ ฺBlu Pearl จึงมองว่าเป็นโครงการที่อาจจะตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่เคยอาศัยอยู่ในตัวเมือง หรือมีสมาชิกเพิ่ม ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมและทำเลที่ไม่แออัด เดินทางสะดวกในระดับราคาเอื้อมถึง ถือว่าเป็นโครงการที่ลงตัวครับ


ความลงตัวของ โครงการภัสสร เกาะแก้ว เป็นโครงการบ้านเดี่ยวตั้งอยู่ใน ถนนเกาะแก้ว ซอย 33 ที่เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักของภูเก็ต คือถนนเทพกระษัตรี ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังตัวเมืองหลักของภูเก็ต ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ใกล้ๆกัน โครงการนี้มีจำนวนยูนิต 161 หลัง แบบบ้าน 4 แบบ ทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 121 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 36.2 ตร.วา
สำหรับโครงการนี้เมื่อวิเคราะห์ลึกๆ ยอมรับว่ามีข้อดีที่ลงตัว อยู่หลายเรื่อง ที่ทำให้มีจุดขายที่ดีกว่าหลายๆโครงการที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง เพื่อพิจารณาประกอบการซื้อบ้านของโครงการนี้ครับ โดยขอแบ่งออกเป็นทีละประเด็น เช่น ทำเล การเข้าถึง การวางผัง รูปแบบบ้าน ราคา และสรุปเปรียบเทียบโครงการกับสภาพตลาดโดยรอบ เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจได้ง่ายครับ
1. ซ้ายสนามบิน ขวาเมืองภูเก็ต

โครงการ ภัสสร เกาะแก้วมีข้อเด่นในเรื่องของการเดินทางเข้าไปยังโครงการ ซึ่งสามารถจะเลือกได้ 2 ทางหลัก จากเส้นทางถนนใหญ่ หรือ ถนนเทพกระษัตรี ที่เชื่อมต่อระหว่างสนามบินภูเก็ตกับทางเข้าตัวเมืองภูเก็ต จะผ่านทั้ง ถนนเกาะแก้ว ซอย 33 และ ถนนเกาะแก้ว ซอย 23 หากมาจากทางด้านตัวเมืองภูเก็ต จะถึงถนนเกาะแก้ว ซอย 23 ก่อน จะอยู่ทางด้านซ้ายของถนนกระษัตรี เป็นถนนที่ชาวบ้านในพื้นที่ใช้อยู่เป็นประจำ ทางเข้าจะแคบเล็กน้อย แต่ถนนด้านในจะกว้างขึ้น ทำให้ขับง่าย และรถในซอยไม่ติด
ถ้าหากเดินทางมาจากสนามบินภูเก็ต จะเจอกับจุดกลับรถบนถนนเทพกระษัตรี ก่อนที่จะมาถึงถนนเกาะแก้ว ซอย 33 เป็นถนนที่ทางเข้าค่อนข้างดี ถนนทางเรียบไม่ขรุขระ แต่จะมีบางช่วงของถนนที่อาจมีโอกาสถูกกัดเซาะในช่วงหน้าฝน เพราะว่าถนนสร้างเลียบคลองครับ จากถนนเทพกระษัตรีเข้าไปยังโครงการ ประมาณ 700 – 800 ม. โดยทั่วไปแล้วผู้ที่เดินทางในจังหวัดภูเก็ตจะนิยมใช้รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์กันอยู่แล้ว ทำให้ไม่ลำบากในการเดินทาง

1) เส้นทางเข้าโครงการผ่าน ถ.เกาะแก้ว ซอย 33
ทางเข้าถนนเกาะแก้ว ซอย 23 – ถ.เทพกระษัตรี
ด้านในของถนนเกาะแก้ว ซอย 33
2) เส้นทางเข้าโครงการผ่าน ถ.เกาะแก้ว ซอย 23
ทางเข้าถนนเกาะแก้ว ซอย 23 – ถ.เทพกระษัตรี
ด้านในของถนนเกาะแก้ว ซอย 23
3) เส้นทางลัดมาจากกะทู้-ซ.ห่านฝรั่ง ผ่าน รร. นานาชาติบริติช ภูเก็ต
เส้นทางลัดจาก รร.นานาชาติบริติช ภูเก็ต
2. คมนาคมโลกอนาคตในจังหวัดภูเก็ต

การเปิดตัวของรถไฟฟ้ารางเบา



โครงการหมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับถนนหลักของจังหวัดภูเก็ต จะได้อานิสงค์ในอนาคตในเรื่องของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ารางเบาหรือ LRT ที่มีโครงการจากสนข.กระทรวงคมนาคม โดยจะเริ่มจากสถานี ท่านุ่น จ.พังงา เข้าเส้นทางหลักวิ่งผ่านสนามบิน เข้าเส้นถนนเทพกระษัตรี ผ่านตัวเมืองไปจนถึง 5 แยกฉลอง ระยะทาง 60 กม. มีสถานีย่อย 23 สถานี ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการวางแผนจุดตั้งสถานีของรถไฟฟ้าในแต่ละจุดทั่วเกาะภูเก็ต
สำหรับเหตุผลหลักๆของการสร้าง LRT คืิอจัดทำเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ช่วยแก้ปัญหาจราจร และพัฒนาระบบขนส่งที่มีความยืดหยุ่น สามารถขยายต่อได้อีกในอนาคตโดยมีแนวทางในการจัดทำโครงการ ได้แก่ เชื่อมต่อกับการเดินทางระบบอื่น ได้ความจุที่เหมาะสมกับปริมาณการเดินทาง กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมและชุมชนเมือง มีความยืดหยุ่นของระบบทั้งด้านแนวเส้นทาง ค่าลงทุนและบำรุงรักษาต่ำและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้จังหวัด
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของโครงการรถไฟฟ้ารางเบานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการดำเนินงานในการร่วมลงทุน หรือ PPP (Public Private Partnership) โดยได้รับการประสานงานจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ (สนข.) ซึ่งจะอยู่ในช่วงปี 2560 และขอยืนยันว่าคนภูเก็ตจะได้ใช้รถไฟฟ้ารางเบาในปี 2564 ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 3 ปี คือ ปี 2561 2562 และ 2563 ตามแผนที่กำหนด
ปรับโฉมใหม่สนามบินภายในประเทศ จังหวัดภูเก็ต

ได้มีการเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการของสนามบินนานาชาติภูเก็ตใหม่ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2559 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอบรับกับเมืองเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ที่ชาวต่างชาติสามารถที่จะเดินทางมาที่ตัวจังหวัดได้โดยตรง
จากข้อมูลของกรมการท่องเที่ยว ในส่วนของจำนวนชาวต่างชาติที่มาลงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ย. 2560 เป็นจำนวนโดยเฉลี่ยต่อเดือนที่ 370,000 คน

ถือว่าเป็นจำนวนที่สูง ในส่วนของสนามบินภายในประเทศของภูเก็ตเองนั้น ก็มีการเตรียมปรับปรุงสนามบิน โดยคาดว่าจะเริ่มมีการปรับปรุงในเดือน พ.ย. 2560 โดยมีกรอบการดำเนินการคือ 330 วัน ซึ่งแนวทางการปรับปรุงได้แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 เป็นการปิดปรับปรุงในส่วนของผู้โดยภายในประเทศชั้นที่ 1,2 และ 3 (ทิศใต้) จะใช้เวลาจะใช้เวลาจำนวน 236 วันโดยแบ่งออกเป็น งานปรับปรุงงานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรมพื้นที่รวม และงานระบบประกอบอาคาร

ระยะที่ 2 เป็นการปิดปรับปรุงในส่วนของผู้โดยสารระหว่างประเทศชั้นที่ 1,2 และ 3 (ทิศเหนือ) จะใช้เวลาจำนวน 150 วัน และ Commissioning ทุกระบบจำนวน 20 วัน โดยแบ่งออกเป็นงานปรับปรุงงานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรมพื้นที่รวม และงานระบบประกอบอาคาร ซึ่งทั้งโครงการจะแล้วคาดการณ์ว่าจะเสร็จภายในเดือน พ.ย. 2561

3. ป่าตอง ไปง่ายกว่าเดิม


โครงการทางพิเศษ กะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม. เงินลงทุน 10,496.65 ลบ. ได้รับการบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคมขนส่งปี 2560 ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2556
โดย กทพ. ได้ลงนามในสัญญาจ้าง บริษัทเอกชนมาให้คำปรึกษา และลงทุนร่วมในรูปแบบ PPP คือรัฐจะเวนคืนที่ดิน และจัดสรรงบ ส่วนเอกชนจะเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ปัจจุบันอยู่ในช่วงเสนอมติ ครม. และ คกก.
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
4. Mega Project ใกล้โครงการ

ระยะทางเพียง 8 – 10 กม. จากโครงการทางใต้จะเป็นย่านศูนย์การค้าใหญ่ของจังหวัด ซึ่งอยู่ออกมาจากตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันได้แก่ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล ภูเก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เช่น บิ๊กซี, โลตัส, แมคโคร อีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ในอนาคตการพัฒนายังคงต่อเนื่อง ทั้งกลุ่ม Central และกลุ่ม The Mall Group โดย Central Festival Phuket 2
เป้าหมายคือให้เมืองภูเก็ตเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวและการจับจ่าย บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ด้วยมูลค่าโครงการ 12,700 ลบ. เซ็นทรัล ภูเก็ต มาพร้อมแนวคิด The Real Ultimate Gateway of Phuket ที่มีอาคารศูนย์การค้าทั้งหมด 3 อาคาร ซึ่งประกอบด้วยเวิลด์คลาสลักชัวรี่แบรนด์, สวนสนุกระดับโลก, ลานไอซ์สเก็ต และโลกใต้น้ำ มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก
ในส่วนของ The Mall ได้มีการเปิดแบรนด์โครงการ บลูเพิร์ล (ฺBlu-Pearl) มีมูลค่ากว่า 20,000 ลบ.กับ World Class Resort & Shopping Destination ในชื่อโครงการ BLU PEARL ที่เพียบพร้อมไปด้วยศูนย์รวมความบันเทิง
Convention & Exhibition Center ขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูเก็ต พร้อม Resort Hotel นอกจากนี้ยังได้เตรียมสร้าง World Class Theme Park ที่ยิ่งใหญ่และตระการตา บนเนื้อที่รวม 150 ไร่ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2560 อีกด้วยครับ
ล่าสุด ยักษ์ใหญ่ดิวตี้ฟรีอย่าง คิง เพาเวอร์ ได้เปิดตัวศูนย์การค้าไปเมื่อปลายปี 2558 ชูจุดช็อป 3 โซน เจาะนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติในภาคใต้ทั้งสินค้าปลอดอากร แบรนด์เนมหรู ชั้นนำระดับโลกกว่า 100 แบรนด์ โซนสินค้าไทย และภัตตาคารรามายณะ จุลูกค้า 1 พันคน นอกจากนี้ยังมีร้านค้าอื่นๆ ใกล้เคียงก็ยังมี GMS Duty Free และ Bugis Shopping Mall
สถานที่สำคัญในพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ British International School Phuket ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติชื่อดังในจังหวัดภูเก็ต โดยชาวต่างชาติที่พำนักหรือทำงานในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงคนภูเก็ตบางส่วนที่มีบุตร มักจะส่งลูกเข้าเรียนที่นี่ ในพื้นที่ใกล้เคียงนี้ยังมีโรงพยาบาลใหญ่ ด้วยกัน เช่น โรงพยาบาลศิริโรจน์ และโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นต้น
Central Festival Phuket

ขนาดพื้นที่ : 300,000 ตร.ม.
จำนวนร้านค้า : 400 ร้าน โดยมี concept เป็น World Class Luxury Brand มี ลานไอซ์สเก็ต Aquarium
กำหนดเปิดให้บริการ : 2560

ภาพการก่อสร้าง Central Festival Phuket
Blu Pearl

ขนาดพื้นที่ : 650,000 ตร.ม. บนที่ดิน 150 ไร่
กำหนดเปิดให้บริการ : ยังไม่มีกำหนด

ภาพการก่อสร้าง Blu Pearl
King Power Phuket

ขนาดพื้นที่ : 8,200 ตร.ม.
จำนวนร้านค้า : รวบรวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกกว่า 100 แบรนด์
กำหนดเปิดให้บริการ : 2558
5. วิวภูเขา ส่วนกลางใหญ่ ให้มากกว่าคู่แข่ง

โครงการบ้านภัสสร เกาะแก้ว ที่มีขนาด 161 หลัง รวมพื้นที่ส่วนกลางกว่า 523 ตร.วา คิดเป็น 7.7% โดยประมาณของพื้นที่ขาย ซึ่งตามกฎหมายจัดสรรแล้วต้องมีขนาดรวมไม่ต่ำกว่า 5% ของพื้นที่ขายในโครงการ หากเทียบกับโครงการอื่นแล้วอาจไม่ได้ใหญ่ที่สุด แต่ถือว่า “ให้มากกว่า”หลายโครงการใกล้เคียง ซึ่งบางโครงการมีเพียงแค่ Clubhouse กับสวนเล็กๆ เท่านั้น
พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่แบ่งออกเป็น สวนขนาดกว่า 380 ตร.วา ถือว่ามีขนาดใหญ่เทียบเป็นพื้นที่บ้านเดี่ยวได้ถึง 7 หลังเลยทีเดียว โดยลูกบ้านสามารถมาใช้พื้นที่บริเวณนี้ได้ และมีพื้นที่ Clubhouse ขนาด 143 ตร.วา เทียบเป็นขนาดที่ดินของบ้านเดี่ยวได้ถึง 2 หลัง
การจัดวางผังโครงการ หน้าบ้านทุกหลังหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ในส่วนของบ้านที่หันหน้าทิศใต้ จะได้เห็นวิวภูเขาด้านหลังโครงการ จะเป็นลักษณะของผืนป่าขนาดใหญ่ท้ายโครงการ และยังได้รับลมทิศใต้อีกด้วยครับ ถ้าถามว่าราคาแต่ละทิศแตกต่างกันมากหรือไม่ ตอบได้เลยว่า ไม่เกี่ยวครับ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ดิน รูปแบบบ้าน และทำเลครับ ซึ่งทางโครงการได้เกริ่นไว้เล็กน้อยว่า ซื้อช่วงแรกราคาจะถูกกว่า เพราะจะเน้นทยอยสร้างเข้าไป บ้านในเฟสหลังจะเริ่มมีราคาสูงขึ้นตามมา

6. บ้านมาตรฐาน สไตล์ Pruksa
แบบบ้านของโครงการภัสสร เกาะแก้ว ถูกเลือกมาจากแบบบ้านมาตรฐานที่ทางพฤกษา มีอยู่แล้ว พร้อมขาย ในโครงการนี้ บ้านแต่ละหลังได้ถูกเลือกมาภายใต้ของความแตกต่างกันในเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอย และฟังค์ชั่นภายในบ้านเพื่อในตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ หากให้แบ่งประเภทบ้านจะได้ดังนี้ บ้านเดี่ยว 1 แบบ คือ Paradiz และบ้านแฝด 3 แบบ คือ Re-fine, Re-Sense, Re-life แต่เนื่องจากแบบบ้าน Paradiz กับ Re-fine เป็นแบบบ้านเดียวกัน
ฟังค์ชั่นภายในตัวบ้านเหมือนกัน เพียงแต่ขนาดพื้นที่ดินต่างกัน ดังนั้น Type บ้านของโครงการนี้จริงๆแล้วมีด้วยกัน 3 type เท่านั้นเอง ขึ้นอยู่กับลูกค้าจะเลือกแบบบ้านที่ได้บริเวณโดยรอบอย่าง Paradiz หรือ แบบบ้านแฝดอื่นๆ ที่มีฟังค์ชั่นที่ลดลงตามลำดับ ในส่วนถัดไปจะมาวิเคราะห์ลงลึกในรายละเอียดของแบบบ้าน Paradiz หรือ Re-fine ซึ่งเป็นแบบบ้านพระเอกสุดของโครงการ และรายละเอียดอื่นๆของแบบบ้านแฝดทั้งหมดกันครับ
วิเคราะห์บ้าน Type Paradiz

Paradiz
ขนาดที่ดินเริ่มต้น : 52 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย : 142 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น : 5.07 ลบ. หน้ากว้าง : 8.85 ม. ห้องนอน : 3 ห้องนอน ห้องน้ำ : 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ : 2 คันลักษณะเด่นเฉพาะภายนอกตัวบ้าน

หากดูจากด้านหน้าของบ้าน ความกว้างของหน้าบ้านทั้ง 2 ชั้นไม่เท่ากัน เพราะมีการออกแบบให้ชั่นล่างมีโถงจอดรถยื่นออกไปด้านข้างของตัวบ้านทำให้สามารถจอดรถได้ 2 คัน และห้องที่ได้ประโยชน์คือห้องนอนที่ 2 ทำให้มีพื้นที่ระเบียงยื่นออกมา
เจาะลึกรายละเอียดผังรวมของบ้าน Paradiz (Re-fine)

สำหรับรูปแบบผังบ้านเดี่ยว Paradiz หรือ บ้านแฝด Re-fine ที่มีแบบบ้านเหมือนกัน ตัวบ้านกว้างxยาว อยู่ที่ 8.50 ม.x 8.85 ม. ซึ่งข้อดีของบ้าน Paradiz เทียบกับ Re-fine มีเรื่องเดียวคือขนาดของที่ดิน โดย Paradiz จะได้พื้นที่รอบบ้านมากกว่า ตามกฏหมายมีพื้นที่รอบบ้าน Setback ไม่ต่ำกว่า 2 ม. ทุกด้าน ในส่วนของบ้านแฝด Re-fine จะมีด้านหนึ่งเป็นโครงสร้างที่ิติดกับบ้านด้านข้าง และอีกด้านหนึ่งเป็นพื้นที่ Setback 2 ม. สลับกันไปเป็นคู่ๆ
การจัดวางผังของบ้านค่อนข้างเป็นแบบมาตรฐานทั่วไปของบ้านจัดสรร ที่เข้ามาเจอกับ Living Area ก่อน แล้วเชื่อมต่อไปยัง Dining Area จุดเด่นของชั้นล่างเห็นจะเป็นห้องครัวที่ค่อนข้างเป็นสัดส่วน มีขนาด 8 ตร.ม. โดยประมาณ ที่มีพื้นที่ทำครัว Pantry ได้เต็มที่ และมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าภายใน รวมกัน สำหรับชั้นที่ 2 ของ Type นี้ห้องน้ำของห้องนอนเล็กและ Master bedroom แยกกันทำให้มีความส่วนตัวมากขึ้น
การออกแบบพื้นที่ภายในบ้าน



เมื่อเข้ามาในตัวบ้านสิ่งแรกเลยคือ พื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่ยาวต่อไปถึงพื้นที่ทานอาหาร ยาว 8.2 ม. เป็นก้อนเดียวกัน ทรงมาตรฐานแบบง่ายๆ ในส่วนของด้านกว้างของพื้นที่ห้องนี้จะอยู่ที่ 3.7 ม. ถือว่าไม่กว้างหรือแคบจนเกินไป มีระยะเพียงพอในการดูทีวีขนาดใหญ่ไม่เกิน 60 นิ้วได้สบายๆ
ข้อดีอีกเรื่อง คือการที่มีประตูด้านข้างของบ้าน บริเวณห้องทานอาหาร ที่เจ้าของสามารถเดินออกไปที่สวนได้โดยที่ไม่ต้องอ้อมหน้าบ้านหรือหลังบ้าน ซึ่งยังช่วยในเรื่องของจำนวนช่องเปิดให้แสงธรรมชาติเข้ามา และยังทำให้บ้านดูโปร่ง และระบายอากาศได้ดีอีกด้วย


พื้นที่ของห้องนอน Master Bedroom อยู่ติดกับหน้าบ้าน เช่นเดียวกันห้องนอน 2 โดยมีหน้ากว้างของห้องนอนอยู่ที่ 3.7 ม. หากวางเตียงขนาด 6 ฟุต จะเหลือพื้นที่ทางเดินและตู้วางทีวี ประมาณ 2.35 ม. แบบสบายๆ
สำหรับพื้นที่ด้านข้างเตียง มีพื้นที่เพียงพอที่จะวางโต๊ะข้างเตียง และโต๊ะเครื่องแป้งของคุณผู้หญิงได้ เป็นระยะประมาณ 4.3 ม.โดยประมาณ โดยหักพื้นที่ความลึกสำหรับ Walk-in Closet ไว้แล้วแบบเหลือๆ ซึ่งห้องนอน Master สามารถที่จะจัดวางตู้เสื้อผ้าได้ 2 ฝั่งเลยครับ


สำหรับห้องนอนที่ 2 มีขนาดกว้าง x ยาว อยู่ที่ 3 ม. x 3.6 ม. จากขนาดของห้องเหมาะสมที่จะวางเตียง 3.5 ฟุต เพื่อให้มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับโต๊ะข้างเตียง และพื้นที่แต่งกับตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะฟิตพอดีๆด้านยาว 3.6 ม. อีกด้านหนึ่งของปลายเตียงเนื่องจากยั่งมีพื้นที่บางส่วนสามารถวางโต๊ะ Study ได้อีกด้วย อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า พื้นที่ห้องนอน 2 เป็นชั้นบนของโรงจอดรถ
ทำให้ได้พื้นที่ระเบียงที่เชื่อมออกมาจากตัวห้องนอน เป็นพื้นที่นั่งเล่นได้ครับ มีขนาด 3 ตร.ม.โดยประมาณ ที่ความกว้างและยาว 1.55 ม. x 3 ม. ถือเป็นขนาดที่ใช้งานได้ ไม่ใช่เป็นแค่ระเบียงตกแต่งครับ ข้อดีสุดท้ายของห้องนี้ หากเปรียบเทียบกับห้องนอนทั้งหมด คือเรื่องของช่องเปิด ติดระเบียง ห้องเป็นแนวสั้นกว่า ห้อง Master Bedroom ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติค่อนข้างเต็มที่ทั้งห้อง


ห้องนอน 3 เล็กสุดของบ้านแต่ขนาดใกล้เคียงกับห้องนอนที่ 2 แต่ไม่มีพื้นที่ระเบียงและมุมหลังบ้าน อาจจะได้บรรยากาศที่ต่างออกไป ช่องเปิดในห้องมีขนาดเล็กอาจทำให้ดูทึบ ซึ่งความกว้างโดยประมาณคือ 1 ใน 3 ของความกว้างห้องนอน ส่วนของการจัดวางพื้นที่เฟอร์นิเจอร์มีข้อจำกัดเล็กน้อย
ระยะการวางเตียง 3.5 ฟุต ควรชิดผนังด้านใดด้านหนึ่งของห้อง จะทำให้เหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงสำหรับวางตู้เสื้อผ้า และปลายเตียงอีกด้านเพื่อวางเป็นโต็ะ Study ได้ โดยมีพื้นที่ทางเดินเหลือไม่ต่ำกว่า 0.8 ม. โดยประมาณ ก็จะทำให้ห้องนี้ดูไม่แออัดจนเกินไป
Type อื่นๆ ของโครงการ
Re-Sense


Re-Life


7. คุ้มค่ากับของที่ได้

ทางด้านความเหมาะสมของราคา โดยปกติแบรนด์โครงการ ภัสสรจะอยู่ในระดับราคากลางๆ โดยประมาณที่ 3 – 7 ลบ. โดยเฉลี่ยทั้งโครงการในกรุงเทพหรือภูเก็ตเองด้วยกัน ซึ่งระดับราคานี้เป็นช่วงที่กลุ่มลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย แต่ก็เช่นเดียวกันทำให้มีคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันเกิดขึ้นมาหลายแห่ง ราคาของโครงการภัสสร เกาะแก้ว คือ 3.79 – 6 ลบ. ซึ่งในพื้นที่ใกล้เคียงกันมีระดับราคาเดียวกันไม่มาก
สำหรับโครงการโดยรอบส่วนใหญ่ หากไม่เป็นโครงบ้านเดี่ยวไปเลยก็เป็นโครงการบ้านแฝดเพียงอย่างเดียว รวมไปถึงสไตล์ของบ้าน ความชอบก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า หากแต่ว่าการที่โครงการมีส่วนกลางขนาดใหญ่ ถือเป็นความคุ้มค่าของลูกบ้านที่ซื้อโครงการนี้และสามารถมาใช้ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย


เจ้าของโครงการ : Land & House
ราคา : เริ่มต้น 4.93 ลบ.
จำนวนหลัง : 128 หลัง
รูปแบบบ้าน : บ้านเดี่ยว
พื้นที่ใช้สอย : 125 – 135 ตร.ม.
โครงการตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ ภัสสร เกาะแก้ว รูปแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ เล็กกว่า และราคาเริ่มต้นที่สูงกว่าด้วย อาจทำให้ขายได้ยากกว่า

เจ้าของโครงการ : Sansiri
ราคา : เริ่มต้น 5.15 ลบ.
จำนวนหลัง : เฟสแรก 40 หลัง
รูปแบบบ้าน : บ้านเดี่ยว
พื้นที่ใช้สอย : 140 – 151 ตร.ม.
โครงการตั้งอยู่ ใกล้กับ รร.นานาชาติ บริติช ภูเก็ต อาจเป็นคู่แข่งเฉพาะบ้านเดี่ยว ในระดับราคาและพื้นที่ใช้สอยที่ใกล้เคียงกัน

เจ้าของโครงการ : อิสยาภรณ์
ราคา : เริ่มต้น 3.99 ลบ.
จำนวนหลัง : 136 หลัง
รูปแบบบ้าน : บ้านเดี่ยว
พื้นที่ใช้สอย : 150 – 175 ตร.ม.
รูปแบบบ้านที่เป็นสไตล์ ชิโน โปรตุกีส เมืองเก่าของภูเก็ตมาใช้ ทำให้มีความแตกต่าง และตามมาด้วยขนาดพื้นที่ช้สอยที่มากกว่าและราคาที่สูงขึ้นเล็กน้อย เป็นข้อเปรียบเทียบกับโครงการได้

เจ้าของโครงการ : The Attitude One
ราคา : เริ่มต้น 4.9 – 12.9 ลบ.
จำนวนหลัง : 95 หลัง
รูปแบบบ้าน : บ้านแฝด และ Villa
พื้นที่ใช้สอย : 161 – 170 ตร.ม.
รูปแบบบ้านสไตล์ Loft แบบญี่ปุ่น เป็นบ้านแฝดที่ได้พื้นที่ใช้สอยมากถึง 161 ตร.ม. แต่ก็ตามมาด้วยราคาที่สูงขึ้นตามขนาดพื้นที่ใช้สอย บนพื้นที่ดินไม่เท่าบ้านเดี่ยวโครงการอื่นๆ ทำให้เน้นจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางมากกว่า
สรุปความลงตัวของโครงการ


โดยภาพรวมแล้วโครงการ ภัสสร เกาะแก้ว ถือว่าเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ได้มาตรฐาน ในเรื่องของทำเลที่ตั้ง อยู่ตรงกลางระหว่างสนามบินภูเก็ตกับตัวเมือง จากถนนซอยเกาะแก้ว 23, 33 ก็ถึงถนนเทพกระษัตรีได้ ซึ่งห่างจากเมือง 8 – 10 กม. สามารถเดินทางไปศูนย์การค้าใหญ่ๆได้ง่าย มองว่าเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ชอบความแออัดในเมือง หรือเป็นกลุ่มที่เดินทางไปต่างจังหวัดหรือไปต่างประเทศบ่อยๆ การขับรถไปสนามบิน ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีก็ถึง การเดินทางนอกจากรถยนต์ที่เป็นหลักแล้ว ต้องมาดูกันอีกทีว่า โครงการรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นซึ่งสถานีอยู่ใกล้กับโครงการ เพื่อความสะดวกในการเดินทางที่เร็วขึ้นทั้งเข้าเมืองหรือไปจุดอื่นๆ ในเกาะภูเก็ต
นอกจากในเรื่องของทำเลที่เป็นจุดเด่น ตัวบ้านเองมีความลงตัว ที่ระดับราคาปานกลางกับรูปแบบบ้าน สไตล์ Modern แต่มีกลิ่นอายของ Art Nouveau ผสมเล็กน้อย เพื่อเป็นจุดขายที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆความที่เป็น Developer รายใหญ่ของไทย เป็นการการันตีในเรื่องของมาตรฐานของการก่อสร้างได้ดี และมาตรฐานวัสดุที่พฤกษาใช้ในทุกโครงการที่ทำเป็นรูปแบบมาตรฐาน ความดีความชอบจริงๆ คงต้องยกให้กับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่เตรียมพื้นที่ไว้ 1 ไร่ กว่าๆ ที่เป็นทั้งสวนส่วนกลาง และเป็น Clubhouse รวม Facilities ต่างๆของโครงการเอาไว้ด้วยกัน ทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ Lobby และอื่นๆ