
แสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้าของไทยผู้นำด้านโครงการที่อยู่อาศัยระดับกลาง-บนทั้งแนวราบและแนวสูง เจ้าของโครงการ 98 Wireless คอนโดมิเนียมระดับ Hi-End ย่านกลางใจเมืองบนถนนวิทยุ และบ้านแสนสิริ พัฒนาการ โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ตัวท็อปสุดของแบรนด์
มาคราวนี้ทางแสนสิริขอต่อยอดความเป็นผู้นำบ้านเดี่ยวระดับบนด้วยโครงการ เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา ซึ่งมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “ชีวิตสุนทรีย์ มีดีเทล” เพื่อเน้นย้ำความภาคภูมิของแบรนด์บนทำเลศักยภาพอย่างทวีวัฒนา
โดยในส่วนของบ้านเศรษฐสิรินั้นถูกวาง Position ของแบรนด์ให้อยู่ในระดับบนและมาในธีม Portrait of Success หรือภาพของชีวิตที่ภาคภูมิ โดยตัวโครงการมีภาพลักษณ์ที่ดูภูมิฐาน น่าเชื่อถือ สะท้อนภาพของความสำเร็จในชีวิต สร้างความรู้สึกภาคภูมิเหนือระดับให้กับผู้เป็นเจ้าของและผู้อยู่อาศัย
นอกจากนี้ตัวแบรนด์ยังให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของทำเลที่ตั้ง โดยหยิบยกเรื่องราวมาร้อยเรียงเป็นคอนเซ็ปต์ของแต่ละโครงการและดีไซน์ออกมาภายใต้บริบทดังกล่าวเพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และที่สำคัญที่ตั้งของโครงการ จะต้องอยู่บนทำเลศักยภาพที่สามารถรองรับการเติบโตได้ในอนาคตได้ด้วย
“ทวีวัฒนา” ทำเลแห่งความภาคภูมิของชีวิตสุนทรีย์

โครงการเศรษฐสิริ ทวีวัฒนา ตั้งอยู่ในเขตทวีวัฒนาซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของกรุงเทพที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับโซนกรุงเทพชั้นในอย่างวังหลัง ศิริราช และเขตพระนครได้ด้วยถนนบรมราชชนนี และสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังจังหวัดนนทบุรีและนครปฐมได้สะดวก นอกเหนือจากถนนสายหลักอย่างบรมราชชนนี ถนนเพชรเกษม และถนนกาญจนาภิเษกที่ทำให้ได้เปรียบในแง่ของการคมนาคมแล้ว ในอนาคตพื้นที่ตรงนี้จะถูกรองรับด้วยส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีแดงอ่อนอีกด้วย
ไม่เพียงแต่เส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย ตัวโครงการยังตั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญมากมายหลายแห่ง อาทิเช่น พุทธมณฑล และถนนที่มีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทยอย่างถนนอุทยาน นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยสถานศึกษาชั้นนำอย่างมหาวิทยาลัยมหิดล และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

Image: Mgronline

Image: Mahidol

Image: Kapook

Image: The Brio Mall

Image: DDproperty

Image: Satriwit3

Image: Assumption College Thonburi

Image: Plearn Pattana
4 นาทีสู่บรมราชชนนี 5 เส้นทางสู่เพชรเกษม
จากโครงการเศรษฐสิริ ทวีวัฒนา ใช้เวลาประมาณ 4 นาทีก็สามารถเดินทางเข้าสู่ถนนบรมราชชนนีเข้าสู่ตัวเมือง เช่น ปิ่นเกล้า ศิริราช ราชดำเนิน ศรีอยุธยา และยังเชื่อมต่อกับเส้นทางอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น ถนนกาญจนาภิเษกเพื่อลัดขึ้นไปทางบางใหญ่ ปากเกร็ด แจ้งวัฒนะ เดินทางลงใต้โดยผ่านถนนพระราม2 หรือจะออกไปยังภาคตะวันออกก็ได้เช่นกัน และเพียง 15 นาทีจากโครงการสู่จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชบริเวณด่านฉิมพลีเพื่อเดินทางสู่บางซื่อ จตุจักร อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือเชื่อมกับทางยกระดับอื่นๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง และหากต้องการใช้เส้นทางเพชรเกษมเพื่อเดินทางเข้าสู่โซนจรัญสนิทวงศ์และท่าพระ ก็สามารถเลือกได้ถึง 5 เส้นทาง โดยเส้นทางที่สั้นและรวดเร็วที่สุดคือถนนพุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งใช้เวลาเพียง 12 นาทีจากตัวโครงการจนถึงถนนเพชรเกษม หรือในกรณีที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นก็สามารถเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้เช่นกันส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีน้ำเงินและสีแดงอ่อน พร้อมถนนตัดใหม่ นครอินทร์-ศาลายา

1) ถนนศาลาธรรมสพน์ จากถนนพุทธมณฑลสาย 2 ถึงถนนทวีวัฒนา อยู่ระหว่างปรับปรุงถนนและสะพานข้ามคลอง 5 แห่ง พร้อมขยายช่องทางจราจรจาก 2 เลนเป็น 4 เลน คาดว่าแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2563
2) ถนนนครอินทร์-ศาลายา เป็นถนนตัดใหม่ขนาด 6 เลน ระยะทางรวม 12กม. เชื่อมระหว่างถนนนครอินทร์และทางหลวงชนบท นฐ.3004 ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่ทวีวัฒนาและศาลายารวมถึงละแวกใกล้เคียง สามารถเดินทางเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษกได้โดยที่ไม่ต้องผ่านถนนบรมราชชนนี โดยโครงการอยู่ระหว่างขั้นตอนสำรวจและออกแบบ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2565 และพร้อมให้บริการในปี 2567
3) รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน แบ่งออกเป็นสองช่วงได้แก่ ส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค ซึ่งขณะนี้งานโยธาเสร็จแล้ว 100% และมีแผนเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ฟรีช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2562 ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนกันยายนในปีเดียวกัน และสำหรับส่วนต่อขยายช่วงบางแค-พุทธมณฑลคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 โดยสิ้นสุดโครงการที่สถานีพุทธมณฑลสาย 4
4) รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงโดยมี Hub ใหญ่อยู่ที่สถานีบางซื่อ ล่าสุด (26 ก.พ. 62) ครม. มีมติอนุมัติให้ รฟท. ดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา โดยจะเร่งจัดทำ TOR ภายใน 1-2 เดือน คาดว่าจะเปิดประมูลหาผู้รับจ้างและเริ่มก่อสร้างในปี 2562 คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2565
ชีวิตพรีเมี่ยม ท่ามกลางพื้นที่สีเขียว

แม้ว่าโซนทวีวัฒนาจะอยู่ไม่ไกลจากทางคมนาคมสายหลักอย่างถนนบรมราชชนนีและถนนเพชรเกษม อีกทั้งอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญหลายแห่ง แต่กลับพบว่ามีความหนาแน่นน้อยเมื่อเทียบกับโซนหนองแขม ภาษีเจริญ บางกอกน้อย และบางกอกใหญ่ เนื่องด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตทวีวัฒนาเป็นเขตพื้นที่เกษตรกรรม เน้นการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ และอนุญาตให้จัดสรรพื้นที่ปลูกสร้างที่พักอาศัยได้เฉพาะประเภทบ้านเดี่ยว
ซึ่งตัวโครงการเศรษฐสิริ ทวีวัฒนา อยู่ในที่ดินประเภท ก.4 ซึ่งมีข้อกำหนดให้ที่ดินแปลงที่เล็กที่สุดในโครงการมีขนาดไม่ต่ำกว่า 100 ตารางวา ซึ่งถือเป็นข้อดีที่ทำให้บ้านแต่ละยูนิตมีขนาดที่ดินกว้างขวาง รวมไปถึง ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น ทั้งระยะห่างของบ้านแต่ละหลังในโครงการ รวมถึง ยังไม่มีโครงการหมู่บ้านอื่นๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงมากนัก
เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา ” ชีวิตสุนทรีย์ มีดีเทล “

Fact Sheet
ชื่อโครงการ: เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา
เจ้าของโครงการ: บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ: ถนนศาลาธรรมสพน์ แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ
ลักษณะโครงการ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนที่ดิน 100 ตร.ว. ขึ้นไป
พื้นที่โครงการ: 67-3-51.7 ไร่
จำนวนยูนิต: 133 ยูนิต
แบบบ้าน:
– Rothschild’s Slipper ขนาดพื้นที่ใช้สอย 288 ตร.ม. บนพื้นที่ 105 ตร.ว. ขึ้นไป
4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พร้อมห้องแม่บ้านและห้องน้ำ
– Cattleya ขนาดพื้นที่ใช้สอย 301 ตร.ม. บนพื้นที่ 115 ตร.ว. ขึ้นไป
4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พร้อมห้องแม่บ้านและห้องน้ำ
– Vanda ขนาดพื้นที่ใช้สอย 341 ตร.ม. บนพื้นที่ 144 ตร.ว. ขึ้นไป
4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ห้องแม่บ้านและห้องน้ำ 1 เรือนรับรองพร้อมห้องน้ำในตัว
สิ่งอำนวยความสะดวก:
– สระว่ายน้ำระบบเกลือ กว้าง 9.6 x ยาว 25 เมตร
– สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก
– Jacuzzi
– Lobby
– Fitness
– Co-Working Space
– Games Room
– Co-Exercise Room
ราคาเริ่มต้น:
– Rothschild’s Slipper 13.9 ลบ.
– Cattleya 16.09 ลบ.
– Vanda 18.9 ลบ.
*ราคา ณ วันเปิดตัว 16 กพ. 62
แรงบันดาลใจจาก “กล้วยไม้”

จากทำเลที่ตั้งโครงการในเขตทวีวัฒนา ที่มีอาชีพเกษตรกรรม สำคัญดั้งเดิมในการปลูกกล้วยไม้ จนเป็นหนึ่งในคำขวัญของเขตทวีวัฒนา และดอกกล้วยไม้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ความสง่างาม ความงดงามและความรัก จึงเป็นที่มาในการใช้ดอกกล้วยไม้และรายละเอียดของดอกกล้วยไม้มาเป็นแรงบันดาลใจในงานดีไซน์โครงการ ผ่านสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นในแบบฉบับของ “เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา” ที่นอกจากจะงดงามในรายละเอียดแต่ยังผสานไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง (Aesthetic Function)

จุดหนึ่งที่มีการนำคอนเซ็ปต์ของดอกกล้วยไม้มาประยุกต์ใช้มากที่สุด เห็นจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกในหมู่บ้าน โดยเฉพาะ Clubhouse ที่วางผังให้เป็นรูปดอกกล้วยไม้ มีทางเดินเข้าสู่ตัวอาคารเปรียบเสมือนก้านดอก และกลีบดอกคือพื้นที่ส่วนกลางแต่ละส่วน เช่น ฟิตเนส Co-Working Space และ Game Room เป็นต้น ส่วนการตกแต่งภายนอกก็ยังคงคอนเซ็ปต์กล้วยไม้ โดยใช้สีม่วงและรูปทรงของกลีบดอกเป็น Facade ประดับตกแต่งอาคาร


ในส่วนของแบบบ้านทั้ง 3 Type ถูกตั้งชื่อตามสายพันธุ์ของดอกกล้วยไม้ ซึ่งถือเป็นราชาและราชินีของดอกกล้วยไม้ ได้แก่ Rothschild’s Slipper (รองเท้านารี) Cattleya (แคทลียา) และ Vanda (ฟ้ามุ่ย) และมีการนำสีสันของกล้วยไม้ทั้งสามสายพันธุ์มาใช้ในการตกแต่งตัวบ้าน
รวมถึง Shading Screen ที่ใช้บังแดดและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายบนกลีบดอกกล้วยไม้พันธุ์ Vanda นั่นเอง
ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนในบ้าน

Triple Master Bedroom
ที่ชั้น 2 ของบ้านทั้ง 3 แบบ ถูกแบ่งเป็นห้องนอนขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว เสมือนมี Master Bedroom ถึง 3 ห้อง มีข้อดีในเรื่องความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว

Enclosed Balcony
เติมเต็มประโยชน์การใช้สอยของระเบียงห้องนอนด้วยฟังก์ชั่น Enclosed Balcony ที่สามารถปรับเปลี่ยนจาก Semi-Outdoor นั่งพักผ่อนรับลมชิวๆ กลายเป็นส่วน Indoor เพิ่มพื้นที่ต่อเนื่องจากบริเวณห้องนอนได้อีกด้วย

My Pavilion
สำหรับบ้าน Type ใหญ่สุด อย่าง Vanda ทางโครงการก็ได้ใส่ฟังก์ชั่น My Pavilion หรือเรือนรับรองพร้อมห้องน้ำในตัว ที่เจ้าของบ้านสามารถปรับเป็นพื้นที่ต่างๆ ได้ตามความต้องการ หรือจะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุก็ค่อนข้างสะดวก เพราะบริเวณทางเชื่อมจากเรือนหลัก มีทางลาดสำหรับรถเข็นต่อมาจากบริเวณหน้าบ้านและโรงรถ
ส่วนผนังที่กั้นเชื่อมระหว่าง 2 เรือนนั้น ทางโครงการไม่ได้ทำไว้ให้ตั้งแต่แรก เผื่อลูกค้าต้องการติดตั้งแค่ราวระเบียง ให้บรรยากาศดูโปร่งสบาย หรือถ้าใครชอบสเปซ Indoor จะก่อผนังขึ้นมาแบบบ้านตัวอย่าง ทางโครงการก็ได้เตรียมโครงสร้างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
Unit Type
Rothschild’s Slipper | 288 sq.m.

บรรยากาศภายนอก
บริเวณชั้น 1 มีพื้นที่จอดรถในร่มได้ 3 คัน ซึ่งถ้าจอดชิดเข้าไปด้านในตัวบ้าน อาจเหลือพื้นที่พอให้จอดกลางแจ้งได้อีก 3 คัน ทางเข้าบ้านจากที่จอดรถเป็น Digital Door Lock ส่วนทางเข้าหลักเป็นประตูบานเลื่อนกระจก Low-E
ที่ชั้นสอง จะมองเห็น Shading Screen และ Enclosed Balcony

ห้องรับแขก
สไตล์การตกแต่งของบ้านตัวอย่างหลังนี้ ออกไปทาง Modern Sci-fi เน้นใช้สีขาวที่ทำให้บ้านดูโปร่ง ประกอบกับแปลนบ้านเปิดโล่ง เชื่อมต่อส่วนรับแขกและรับประทานอาหารเข้าด้วยกัน

ห้องรับประทานอาหาร
มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางชุดโต๊ะรับประทานอาหาร 6 ถึง 8 ที่นั่งได้สบายๆ ด้านหลังเป็น Pantry ใช้เตรียมเสิร์ฟอาหาร หรือดัดแปลงเป็นบาร์เครื่องดื่มสำหรับงานปาร์ตี้ก็ได้

ห้องครัว
เป็นครัวปิด เชื่อมต่อจากส่วน Pantry และบริเวณหลังบ้านที่เป็นพื้นที่ของแม่บ้าน ตัวเคาน์เตอร์เป็นครัวปูน จัดเรียงตามผนังห้องรูปตัว U มีหน้าต่างบานเลื่อนเหนืออ่างล้างจาน ช่วยให้แสงแดดส่องถึง และระบายอากาศได้ดี

ห้องนอน 1
Master Bedroom ขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว ด้านหน้าเป็นระเบียง Enclosed Balcony

Enclosed Balcony
ระเบียงพักผ่อนส่วนตัว ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นจาก Semi-Outdoor เป็นพื้นที่ Indoor ได้ด้วย

ห้องน้ำ 1
ห้องน้ำภายใน Master Bedroom ประกอบด้วยอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ฝักบัวพร้อมฉากกั้นอาบน้ำ และพิเศษกว่าห้องอื่นๆ ด้วยอ่างอาบน้ำ

ห้องนอน 2
ตั้งอยู่ฝั่งหน้าบ้านเช่นเดียวกับ Master Bedroom เมื่อซักครู่ มีประตูเปิดออกไปที่ระเบียง ห้องมีลักษณะหน้ากว้าง สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ

ห้องน้ำ 2
ประกอบด้วยอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว

ห้องนอน 3
อยู่ตรงข้ามกับห้องนอน 2 แม้ว่าจะไม่มีระเบียงเปิดออกหน้าบ้าน แต่ได้พื้นที่แนวยาวของฝั่งหลังบ้าน ในบ้านตัวอย่างเลือกวางเตียงนอนไว้มุมด้านในสุดของห้อง ส่วนบริเวณทางเข้าจัดเป็นมุมของเล่น และโต๊ะเขียนหนังสือ ซึ่งในอนาคตอาจกั้นเป็น Walk-in Closet เพิ่มเติมก็ได้

ห้องน้ำ 3
ประกอบด้วยอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้ เช่นเดียวกับห้องน้ำ 2

มุมพักผ่อนบนชั้น 2
ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงาน ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่อยากให้ทึบตันเกินไป แนะนำกั้นประตูกระจกบานเลื่อน หรือจะทำเป็นมุมนั่งเล่น ก็มีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางชุดโซฟา

โถงบันได
บริเวณชานพักบันได มีพื้นที่กว้างพอสำหรับวาง Armchair หรือ Lounge Chair ซักตัว แต่ถ้ากลัวว่าจะเกะกะทางเดิน อาจเปลี่ยนเป็นตู้ Sideboard สวยๆ วางชิดผนังเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ

ห้องดูหนัง
สำหรับห้องนี้ทางโครงการจัดให้เป็นห้องดูหนัง เล่นเกม หรือจะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุก็ได้ เพราะพื้นของห้องนี้เป็น Absorption Floor รองรับสรีระการเดิน มีหน้าต่างเปิดรับวิวสวนหน้าบ้าน และตำแหน่งที่อยู่ไม่ไกลจากห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่าง
ลักษณะคล้ายห้องน้ำ 2 และ 3 ประกอบด้วยอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ฝักบัว

ห้องแม่บ้าน
อยู่บริเวณด้านหลังของตัวบ้าน สามารถเข้าถึงได้จากส่วนครัว และโรงรถทางหน้าบ้าน ภายในห้องมีขนาดกะทัดรัด เพดานค่อนข้างสูง สามารถใส่เตียง 2 ชั้นได้

ห้องน้ำแม่บ้าน
ประกอบด้วยอ่างล้างมือแบบแขวนผนัง กระจกส่องหน้า โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว
Cattleya | 301 sq.m.

บรรยากาศภายนอก
หากมองจากหน้าบ้าน สามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วน ค่อยๆ เล่นระดับลึกเข้าไปด้านใน โดย Enclosed Balcony ที่ติดกับห้อง Master Bedroom จะอยู่ลึกสุด ทำให้บ้านดูมีมิติ ชั้นล่างประกอบด้วยพื้นที่จอดรถในร่ม 3 คัน ถัดมาเป็นประตูทางเข้าหลักที่เชื่อมต่อกับส่วนรับแขก ขวาสุดเป็น Garden Access เข้าสู่ห้องนอนผู้สูงอายุด้านล่าง ด้านข้างตัวบ้านยังมีพื้นที่เหลือ สามารถต่อเติมเป็นศาลานั่งเล่นแบบในบ้านตัวอย่างได้ด้วย

บรรยากาศภายนอก
ศาลานั่งเล่นที่ต่อเติมขึ้นบริเวณพื้นที่ข้างตัวบ้าน ใกล้กับห้องนอนผู้สูงอายุ

ที่จอดรถหน้าบ้าน
บริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน Type นี้ มีทางลาดสำหรับรถเข็มเตรียมไว้ให้ เมื่อขึ้นไปจะเจอกับประตูบานเลี่อนเพื่อเข้าสู่ตัวบ้านใกล้กับส่วนครัว

ห้องรับแขก
จากทางเข้าบ้านหลัก จะพบกับส่วนรับแขกเป็นอย่างแรก สามารถมองเห็นส่วนรับประทานอาหารที่อยู่ทางด้านหลังได้เนื่องจากเป็นแปลนเปิดโล่ง และด้วยตัวบ้านที่ไม่ลึกมาก ทำให้ภายในบ้านได้รับแสงสว่าง จากช่องแสงทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านอย่างทั่วถึง

ห้องรับประทานอาหาร
จัดชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง ต่อเนื่องกับ Pantry เตรียมอาหาร ด้านหลังเป็นหน้าต่างยาวเกือบเต็มแนวผนัง ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงพื้นที่ภายในบ้าน

ห้องครัว
เป็นครัวปิด เชื่อมต่อกับส่วน Pantry ด้านหลังมีประตูเปิดออกไปยังหลังบ้าน เคาน์เตอร์ครัวจัดเรียงตามแนวผนังทั้ง 2 ข้าง

ห้องน้ำชั้นล่าง
Powder Room ประกอบด้วยอ่างล้างมือแบบวางบนเคาน์เตอร์ กระจกเงาขนาดใหญ่ซ่อนไฟ LED ด้านล่าง และโถสุขภัณฑ์

โถงบันได
โถงบันไดเดินขึ้นสู่ชั้นสองของตัวบ้าน เชื่อมต่อกับทางลาดสำหรับรถเข็นและที่จอดรถหน้าบ้าน ข้างบันไดเป็นทางเดินไป Powder Room

ช่องเก็บของบริเวณบันได
เพิ่มฟังก์ชั่นให้บันได ด้วยช่องเก็บของขนาดใหญ่ สามารถเก็บกระเป๋าเดินทาง หรือกล่องข้าวของที่ไม่ค่อยได้ใช้

มุมพักผ่อนบริเวณชั้น 2
สำหรับบ้านตัวอย่างหลังนี้ ทางโครงการจัดเป็นห้องทำงาน มีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปยังระเบียงหน้าบ้านได้ด้วย

ห้องนอน 1
Master Bedroom ขนาดใหญ่ ซุ้มประตูข้างหัวเตียงคือ Walk-in Closet ข้างๆ กันคือทางเข้าจากห้องทำงานเมื่อซักครู่ มีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังส่วน Enclosed Balcony

Walk-in Closet
เชื่อมต่อกับห้องนอนและ Master Bedroom มีหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติ ที่นอกจากจะทำให้ห้องดูสว่างขึ้นแล้ว ยังถูกใจคุณผู้หญิงที่ต้องการแสงธรรมชาติเพื่อการแต่งหน้าอีกด้วย

ห้องน้ำ 1
Master Bathroom ประกอบด้วยอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ Shower พร้อมฉากกั้นบานเปลือย และอ่างอาบน้ำ

ห้องนอน 2
ตั้งอยู่ฝั่งหน้าบ้านเช่นเดียวกับ Master Bedroom เมื่อซักครู่ มีประตูเปิดออกไปที่ระเบียง ด้านในสุดเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in หรือจะกั้นผนังแบ่งส่วนเสมอแนวห้องน้ำ กลายเป็น Walk-in Closet ก็ได้

ห้องน้ำ 2
ประกอบด้วยอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ฝักบัว

ห้องนอน 3
ตั้งอยู่ทางด้านหลังของตัวบ้านชั้นสอง ถึงแม้จะมีขนาดเล็กที่สุดในบ้าน แต่ก็ถือว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางเตียง 5-6 ฟุต และจัดเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นสัดส่วน

ห้องน้ำ 3
ประกอบด้วยอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ฝักบัว พร้อมก่อธรณีแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้

ห้องนอน 4
ห้องนอนผู้สูงอายุที่ชั้นล่าง เป็น Garden Access สามารถเชื่อมต่อกับบริเวณสวนหน้าบ้านได้ พื้นห้องรองรับการใช้งานผู้สูงอายุด้วย Absorption Floor รองรับการกระแทก ภายในห้องออกแบบพื้นให้ไม่มีสเต็ป สามารถใช้งานรถเข็นเข้าสู่ห้องน้ำได้สะดวก

ห้องน้ำ 4
ห้องน้ำภายในห้องนอนผู้สูงอายุ ประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อน อุปกรณ์ก๊อกน้ำต่างๆ เป็นแบบก้านโยก ไม่ต้องออกแรงบิดที่ข้อมือมาก ตรงส่วน Shower ก่อที่นั่งอาบน้ำเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน
และอีกจุดสำคัญคือพื้นห้องน้ำที่ไม่มีสเต็ป เลือกใช้พื้นลาดเอียงสำหรับการเปลี่ยนระดับ รวมถึงการแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง ทำให้สามารถใช้งานรถเข็นเข้าสู่ห้องน้ำได้สะดวก และปลอดภัยต่อการใช้งานของผู้สูงอายุ
Vanda | 341 sq.m.

สำหรับบ้าน Vanda ตัวบ้านภายนอก รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้สอยภายใน จะมีลักษณะเช่นเดียวกับบ้าน Rothschild’s Slipper แต่ด้วยขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ 144 ตร.ว. ขึ้นไป ทำให้มีพื้นที่โดยรอบบริเวณบ้านมากขึ้น ทางโครงการจึงเพิ่มส่วนของ My Pavilion พร้อมห้องน้ำในตัวเข้ามา ซึ่งใน My Pavilion นั้นสามารถใช้เป็นพื้นที่รองรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของแต่ละครอบครัวได้ หรือปรับเป็นห้องนอนสำหรับแขกและผู้สูงอายุ อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นก็ได้ค่ะ
นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย
Cool Living Design นวัตกรรมบ้านเย็น อยู่สบาย

1.) Low-E Glass เป็นครั้งแรกที่แสนสิรินำกระจก Low-E มาใช้กับโครงการบ้านเดี่ยว ซึ่งกระจกชนิดนี้ สามารถลดความร้อนได้มากกว่ากระจกเขียวตัดแสงประมาณ 30%
2.) Shading Screen ที่ได้พูดถึงคอนเซ็ปต์การออกแบบไปแล้วข้างต้น ส่วนฟังก์ชั่นหลักคือช่วยบังแสงแดดที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้อยู่อาศัย
3.) UV Shield สีทาบ้านชนิดพิเศษที่เคลือบสารช่วยสะท้อนความร้อนของแสงแดดออกจากตัวบ้าน และลดการสะสมความร้อนระหว่างวัน
4.) Texture Wall ผิวขรุขระที่บริเวณผนังจะช่วยให้แสงแดดถูกสะท้อนและหักเหออกไป ไม่กระทบผนังโดยตรง และลดการสะสมความร้อนในผนัง
5.) Solar Attic ระบบพัดลมและช่องระบายอากาศใต้หลังคาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยระบายความร้อนใต้หลังคา ทำให้บ้านเย็นลง และลดการสะสมของเชื้อโรค

6.) Breeze Panel ช่องระบายอากาศเล็กๆ บริเวณประตู หน้าต่าง เหมาะสำหรับเวลาที่ปิดบ้านไว้นานๆ เมื่อเราเปิด Breeze Panel ทิ้งไว้ จะช่วยให้มีอากาศถ่ายเท ระบายความร้อน และลดกลิ่นอับชื้นภายในบ้าน

Home Innovation

– Sansiri Home Service Application ทำงานร่วมกับระบบ Home Automation เพื่อสั่งเปิด-ปิดไฟ แอร์
– นวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น ด้วยระบบกรองอากาศที่ได้มาตรฐานเดียวกับ Clean Room ของโรงพยาบาล สามารถกรองอนุภาคได้ถึง 0.1 ไมครอน
– Food Waste Machine เศษอาหารต่างๆ จะถูกบดและอบแห้ง กลายเป็นเศษผงอินทรีย์สารที่สามารถนำไปพัฒนาเป็นปุ๋ยอินทรีย์ต่อได้
– Smart Outdoor Security Camera เหมือนมีคนคอยตรวจตราหน้าบ้านของเราให้เรียบร้อยอยู่เสมอ และเมื่อตรวจพบสิ่งแปลกปลอมระบบจะแจ้งผ่านมือถือให้เราทราบได้ทันที
– สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic Censor และ Motion Censor
– ระบบ Digital Door Lock ที่สามารถแยกชุด Password หรือสร้างรหัสผ่านสำหรับใช้ครั้งเดียว (OTP) เหมาะสำหรับกรณีที่จ้างแม่บ้าน หรือมีช่างเข้ามาดูแลเป็นครั้งคราว