
โครงการ Groove Vibes Ladprao 18 ตั้งอยู่ในทำเลลาดพร้าว ใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ มากมาย ทั้งแหล่งงาน แหล่งช้อปปิ้ง รวมถึงเดินทางสะดวกสบาย ตัวโครงการห่างจาก MRT สถานีลาดพร้าวเพียง 750 ม. และสามารถลัดออกถนนสายหลักได้ถึง 3 เส้น
มาพร้อมกับการออกแบบสุดแนว ตอบโจทย์กลุ่มคน Gen Millennial ที่มีความเป็นตัวเองสูง ภายในโครงการออกแบบได้มีความน่าสนใจหลายจุด ตั้งแต่ Facilities ชั้นใต้ดิน, สระว่ายน้ำระบบน้ำแร่, รวมไปถึงรูปแบบห้องพักแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 20 ตร.ม. ที่จัดฟังก์ชั่นที่ลงตัว ในราคาเริ่มต้น 1.99 ลบ.
FACT SHEET
- โครงการ : Groove Vibes Ladprao 18
- ผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท กรู๊ฟ คอนโด แอล18 จำกัด (บริษัทในเครือ ดิวายน์ ดิเวลลอปเมนท์ โฮลดิงส์ จำกัด)
- ที่ตั้ง : ซ.ลาดพร้าว 18 จตุจักร กรุงเทพฯ
- ขนาดโครงการ : 1 – 0 – 51 ไร่
- จำนวนชั้น : 7 ชั้น
- จำนวนยูนิต : 217 ยูนิต
- ที่จอดรถ : 45%
- – Auto Parking 6 ชั้น จำนวน 86 คัน
- – ที่จอดปกติ (ชั้น 1) จำนวน 12 คัน
Unit Type :
- – 1 Bedroom พื้นที่ 20.45 – 25.40 ตร.ม.
- – 1 Bedroom Plus พื้นที่ 28.80 – 36.43 ตร.ม.
- – Loft 1 Bedroom พื้นที่ 20.10 – 25.40 ตร.ม.
- – Loft 1 Bedroom Plus 1 WC พื้นที่ 28.02 – 30.00 ตร.ม.
- – Loft 1 Bedroom Plus 2 WC พื้นที่ 26.97 – 35.35 ตร.ม.
- – 1 Bedroom Villa พื้นที่ 25.99 ตร.ม.
Facilities :
- Co – working Space / E – Gamer Room / Play Cave / Mail Room / Groove Box Cafe / Mineral Pool / Jacuzzi / Fit Club / Active Studio / Rooftop
- เริ่มก่อสร้าง : Q1 2563
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q2 2564
- ราคาเริ่มต้น : 1.99 (Fully Furnished)
ลาดพร้าว – ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
-
โซนลาดพร้าว
- เป็นโซนที่มีความครบ จบ ในโซนเดียว ประกอบด้วยแหล่งงาน แหล่งช้อปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่รวมไว้อย่างครบครัน เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตข้างนอก ในหลายสไตล์ ใกล้ห้างขนาดใหญ่ และสวนสาธารณะ 2 แห่ง พื้นที่รวมกว่า 500 ไร่
-
รถยนต์
- โครงการตั้งอยู่ ซ.ลาดพร้าว 18 สามารถลัดเข้า – ออก ได้หลายเส้นทาง จาก ถ.ลาดพร้าวสามารถเข้าได้จาก 3 ซอย คือ ซ.ลาดพร้าว 18,20 และ 26 ส่วนจาก ถ.รัชดาภิเษก สามารถเข้าจาก ซ.รัชดาภิเษก 19 รวมถึง ซ.วิภาวดีรังสิต 20 จาก ถ.วิภาวดีรังสิต
-
รถไฟฟ้า
- อยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 4 สาย ซึ่งในปัจจุบันมี 2 สายหลัก คือ MRT สายสีน้ำเงิน และ BTS สายสุขุมวิท นอกจากนี้ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีส้มเปิดให้บริการ รวมถึงการขยายเส้นการเดินรถไฟฟ้าของ BTS ที่วิ่งถึงคูคต จะทำให้การเดินทางออกนอกเมืองไปยังโซนต่างๆ ง่ายขึ้นด้วย
Groove Vibes Ladprao 18
คอนโดมิเนียมหน้าตาทันสมัย ถูกใจวัย Millennia

- โครงการ Groove Vibes Ladprao 18 เป็นคอนโด Low Rise ที่มีการดีไซน์ ออกแบบมาให้มีเอกลักษณ์ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์ อยู่ในช่วงวัย Millennia ซึ่งมักจะเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีความเป็นตัวของตัวเองสูง อายุช่วง 25 – 35 ปี ภายใต้แนวคิด Retro futurism ที่เน้นการออกแบบรูปทรงอาคารโดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก
6 ดีไซน์สุดแนว ที่รวมไว้ใน Groove Vibes Ladprao 18

ภายในโครงการมีความน่าสนใจหลายจุด ที่มีความแตกต่างจากโครงการส่วนใหญ่ ตั้งแต่การนำ Facilities หลักของโครงการตั้งอยู่ในชั้นใต้ดิน ซึ่งสามารถเข้าได้จากบันไดบริเวณ Lobby ชั้น 1 และลิฟต์จากทุกชั้น โดยที่ภายในพื้นที่ชั้นใต้ดินรวมถึงยูนิตตรงกลางอาคารของแต่ละชั้น มีการออกแบบให้อยู่ติดกับ Skylight ซึ่งเป็นช่องแสง ที่นำแสงธรรมชาติจากชั้นดาดฟ้า ลงมายังชั้นต่างๆ จนถึงใต้ดิน ทำให้บรรยากาศของพื้นที่โครงการไม่อึดอัด
นอกจากนี้ตัวโครงการยังสูงเพียง 7 ชั้น ทำให้ได้ระยะความสูงเพดาน สูง 2.55 ม. ในส่วนของชั้นพักอาศัย มีการจัด Layout ที่แปลกใหม่ รวมถึงห้องพักอาศัยมีขนาดเริ่มต้น 1 ห้องนอน เพียง 20 ตร.ม. เป็นขนาดเริ่มต้นที่เล็กกว่าโครงการส่วนใหญ่ ทำให้ราคาห้องสามารถจับต้องได้ โดยเฉพาะคนที่ต้องการอยู่คนเดียว ไม่ต้องการห้องที่ใหญ่มาก และในเรื่องของที่จอดรถ มีการนำ Auto Parking เข้ามาใช้ในโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเพียงโครงการระดับ Luxury ที่นำมาใช้ แทรกตามชั้น 1 – 6 ของชั้นพักอาศัย
1. ส่วนรวมที่หลากหลาย และส่วนตัวสุดๆ ด้วยการจัด Facilities ไว้ใต้ดิน

- การวางสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางไว้ใต้ดิน เป็นหนึ่งในสิ่งที่หายากสำหรับโครงการคอนโดมิเนียม เพราะเรื่องของต้นทุนที่สูงกว่าในการก่อสร้าง เมื่อเทียบกับแบบบนดินทั่วไป แต่เป็นสิ่งที่ทำให้โครงการนี้สามารถนำพื้นที่ชั้น 1 รวมถึงชั้นบนที่มีวิวสวย จัดเป็นห้องพักได้
- ซึ่งการนำ Facilities ไว้ชั้นใต้ดิน ก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย โดยจุดเด่นหลักๆ ของการนำไว้ชั้นใต้ดิน เป็นเรื่องของความเป็นส่วนตัว ที่พื้นที่บริเวณข้างเคียงไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนกลางได้ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ปิด ทำให้สามารถควบคุมอุณหภูมิของพื้นที่ ไม่ต้องคำนึงถึงสภาพอากาศภายนอก และยังเปิดตลอด 24 ชม. ทำให้สามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ตลอดเวลา แต่ส่งผลถึงค่าส่วนกลางของโครงการที่ราคาค่อนข้างสูง คือ 58 บ. / ตร.ม. / เดือน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยค่าส่วนกลางของคอนโดในซอยเดียวกันที่อยู่ที่ 52 บ. /ตร.ม. / เดือน ทั้งนี้โครงการอื่นๆ ในซอยเดียวกัน ไม่ได้มี Facilities ที่หลากหลาย และให้เยอะขนาดโครงการนี้ ดังนั้น ใครที่ชอบใช้ส่วนกลางบ่อยๆ ถือว่าคุ้มค่าแน่นอน
บรรยากาศจำลองพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร
2. Rooftop ที่เป็นมากกว่าพื้นที่สีเขียว

ในบริเวณชั้นดาดฟ้า นอกจากจะทำเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ภายในโครงการแล้ว ยังมีการเจาะช่องในพื้นที่บางส่วน เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องลงไปยังชั้นต่างๆ ที่อยู่ด้านล่าง โดยช่องที่ออกแบบในที่นี้ จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ช่อง Skylight เป็นช่องที่มีกระจกกั้น และมีตัวพัดลมที่ช่วยถ่ายเทอากาศ ซึ่งช่องนี้จะทะลุไปยังพื้นที่ส่วนกลางชั้นใต้ดิน รวมถึงให้หมุนเวียนอากาศ และให้แสงกับห้องพักที่อยู่โซนด้านในอาคารอีกด้วย กับช่องแสง ซึ่งเป็นช่องที่เจาะไว้โดยที่ไม่มีกระจกหรืออะไรมากั้น ทำให้ได้สัมผัสถึงแสงและสภาพอากาศในเวลานั้นๆ เช่น เวลาฝนตก ก็สามารถตกผ่านช่องนี้ลงมายังพื้นที่ด้านล่างได้ โดยช่องนี้จะอยู่บริเวณห้องพักประเภท 1 Bed Villa ซึ่งอยู่ตรงกลางอาคารของชั้น 7
3. คอนโด Low Rise ที่อยู่แล้วรู้สึก High

Groove Vibes Ladprao 18 เป็นคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise สูงเพียง 7 ชั้น ซึ่งโดยปกติแล้ว คอนโดมิเนียมตึกเตี้ยส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้มี 8 ชั้น ไม่เกิน 23 ม. เพื่อไม่ให้เข้าข่ายเป็นอาคารสูง ซึ่งส่งผลให้ความสูงของแต่ละชั้นในอาคารอยู่ประมาณ 2.40 ม. แต่ในโครงการนี้ ออกแบบมาให้ตัวอาคารสูงเพียง 7 ชั้น ทำให้ได้ความสูงในห้องพักสูง 2.55 ม. ในห้องปกติ รวมถึงในชั้น 6 – 7 สามารถออกแบบให้เป็นห้องรูปแบบ Loft ที่มี Double Volume สูง 4.45 ม.
4. Floor Plan เลย์เอาต์ไม่ใหม่ แต่ไม่เหมือนใคร
- บริเวณชั้น 1 ประกอบไปด้วยพื้นที่จอดรถแบบปกติ และทางเข้า Auto Parking อีก 2 จุด ส่วนทางเข้าภายในอาคารอยู่มี 2 จุด บริเวณ Lobby และโถงลิฟต์ ซึ่งถ้าหากเข้าทาง Lobby จะมีบันไดที่เชื่อมไปสู่ชั้น Facilities ใต้ดิน
- ชั้น 2 – 5 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัย โดยจะเป็นห้องประเภท 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอนพลัส ซึ่งตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป Floor Plan ของอาคารจะสามารถแบ่งยูนิตได้ 2 รูปแบบ คือ ยูนิตริมอาคาร และยูนิตตรงกลางอาคารที่ติดกับ Skylight ซึ่งในแง่ของการวางเลย์เอาต์ที่มีลิฟต์อยู่กลางอาคารอาจจะเป็นรูปแบบทั่วไป แต่การจัดวางห้องพักภายใน โดยเฉพาะยูนิตตรงกลางอาคารถือว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างใหม่ ไม่ค่อยพบเห็นในโครงการอื่นๆ
- สำหรับชั้น 6 ขึ้นไป จะเป็นห้องสไตล์ Loft ซึ่งมีเพดานสูงกว่าห้องปกติ โดยสามารถแบ่งย่อยได้อีก 3 ประเภท คือ Loft 1 ห้องนอน ซึ่งเป็นรูปแบบห้องส่วนใหญ่ในชั้นนี้, Loft 1 ห้องนอน พลัส 1 ห้องน้ำ และ Loft 1 ห้องนอน พลัส 2 ห้องน้ำที่มี 2 ยูนิต ซึ่งเป็นห้องมุมทางทิศตะวันออกของอาคาร
- สำหรับชั้น 7 จะมีห้องวิลล่าเพิ่มมาอีกหนึ่งรูปแบบ โดยอยู่โซนตรงกลางของอาคาร ซึ่งจะมีการเจาะช่องเปิดบริเวณด้านบนบางส่วนของห้องพัก ทำให้สามารถสัมผัสแสงธรรมชาติ และบรรยากาศภายนอกจากด้านบนได้โดยตรง
Floor Plan
5. ห้องพักไซส์ S แต่ฟังก์ชั่นครบครัน

ห้องพักขนาดเริ่มต้นของโครงการ จะอยู่ที่ 20 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องประเภท 1 ห้องนอน ถือได้ว่ามีการจัดวาง และแบ่งสัดส่วนห้องได้ค่อนข้างดี เพราะปกติแล้ว ห้องประเภท 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นเล็กสุดของโครงการอื่น จะอยู่ประมาณ 24 ตร.ม. ขึ้นไป แต่ในโครงการนี้ทำห้องได้เล็กกว่า แต่ระยะภายในถือว่ามีความเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย สามารถอยู่คนเดียวได้แบบสบายๆ เป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่รู้สึกอึดอัด พื้นที่ต่างๆ ยังสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะโซนห้องน้ำ ที่มีการแบ่งโซนเปียก โซนแห้ง โดยมีตู้เสี้อผ้ากั้นกลาง ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้จริง
บรรยากาศภายในห้องพัก

ห้อง Loft เป็นห้องที่อยู่บริเวณชั้น 6 และ 7 ของอาคาร มีจุดเด่นตรงความสูง โปร่งของห้อง ที่สูงถึง 4.45 ม. บริเวณห้องนั่งเล่น รวมถึงห้องน้ำแยกโซนเปียก แห้งที่มีขนาดใหญ่เกือบๆ เท่าห้องนอน สามารถวางเครื่องซักผ้า หรือมุมวางอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องได้สบาย ตอบโจทย์ผู้ที่ใช้เวลาในห้องน้ำนานๆ ส่วนห้องนอนชั้นบน เชื่อมต่อกับพื้นที่เปิดโล่ง และหันหน้าออกไปยังกระจกบานสูง รวมถึงราวที่ใช้กั้นพื้นที่ เป็นบานกระจกเทมเปอร์ ทำให้สามารถนอนรับชมวิวได้อย่างจุใจ
บรรยากาศภายในห้องพัก

สำหรับห้องประเภท 1 Bed Villa เป็นห้อง Loft ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเมื่อเข้ามาจากประตูทางเข้า จะพบกับ Courtyard เป็นเหมือนสวนหน้าบ้าน ที่เปิดรับทั้งแสง และบรรยากาศจากด้านบน ซึ่งในพื้นที่ประกอบด้วยสระสำหรับนอนแช่ในบรรยากาศ Outdoor และมีพื้นที่สีเขียวเล็กๆ สำหรับปลูกต้นไม้ในบริเวณเดียวกัน เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น และครัวระบบปิดที่มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้น ทุกพื้นที่ในห้องเปิดรับชมวิวส่วนตัวด้านหน้า ทำให้เป็นห้องที่ค่อนข้างมีความส่วนตัวสูง

Unit Type
6. Auto Parking ตัวช่วยประหยัดเวลาวนหาที่จอด

ด้วยตัวอาคารที่ออกแบบให้ชั้นใต้ดินเป็นที่ตั้งของ Facilities และชั้น 1 – 7 เป็นห้องพักอาศัย ดังนั้น พื้นที่ส่วนจอดรถด้านล่างแบบปกติจึงมีเพียง 12 คันเท่านั้น ดังนั้นทางโครงการจึงออกแบบให้ที่จอดรถไปแทรกตัวอยู่ในพื้นที่ชั้น 1 – 6 ของอาคาร โดยเป็นที่จอดแบบ Auto Parking ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ในการจอด และผู้อยู่อาศัยไม่ต้องเสียเวลาในการหาที่จอดอีกด้วย
สรุปทุกประเด็นของโครงการ Groove Vibes Ladprao 18
- 1. การเดินทาง : ถือว่าสะดวกทั้งรถยนต์ และรถไฟฟ้า รถยนต์สามารถลัดออกทางถนนสายหลักได้ถึง 3 สาย ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญและทางด่วน ส่วนรถไฟฟ้า อยู่ห่างจาก MRT ลาดพร้าว 750 ม. ซึ่งยังอยู่ในระยะที่เดินได้ รวมถึงทางโครงการมี Shuttle Bus บริการรับ – ส่ง ระหว่างสถานีรถไฟฟ้า ช่วยประหยัดเงินและเวลาในการเดินทางได้มาก
- 2. การออกแบบ : มีเอกลักษณ์เห็นแล้วค่อนข้างสะดุดตา มีความแตกต่างจากคอนโดมิเนียม Low Rise ทั่วไป ส่วน Facade อาคารมีการดีไซน์แผงบังแดดให้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องของความสวยงาม และการใช้สอยไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ ตัวกระจกที่ใช้ในอาคารเป็นกระจกบานสูง ซึ่งทำให้โครงการมีความทันสมัย รวมถึงพื้นที่ภายในห้องพักโปร่ง อยู่สบาย
- 3. Facilities : ให้มาหลากหลาย และตอบโจทย์คนในยุคปัจจุบัน เช่น E – gamer Room หรือ Play Cave ที่ผู้อาศัยในโครงการสามารถมาใช้เพื่อพักผ่อน หรือ Co – working Space และ Groove Box Cafe ที่เอาใจคนทำงานอิสระ ที่อาจใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในโครงการ ให้ได้มานั่งใช้พื้นที่ส่วนกลางในการทำงานได้ตลอด 24 ชม. รวมถึงสระว่ายน้ำระบบน้ำแร่ ฟิตเนส และ Active Studio ที่เหมาะกับผู้ที่รักสุขภาพ
- 4. ห้องพักอาศัย : เป็นห้องขนาดเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน แบบสบายๆ ฟังก์ชั่นภายในครบครัน ทั้งครัวระบบปิด ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำแยกโซนเปียก แห้ง และห้องนอนที่มีการกั้นประตูแยกจากส่วนอื่นๆ รวมถึงส่วนใหญ่เป็นห้องหน้ากว้าง กระจกบานสูงพื้นถึงเพดาน ที่ทำให้พื้นที่ภายในห้องอยู่สบาย ไม่อึดอัด
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ รวมถึงรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร 095 141 5566
หรือ www.groovecondo.com
