The City ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า

ปัจจุบันตลาดบ้านแนวราบในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจบ้านเราไม่ได้เอื้อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากนัก แต่ในด้านที่อยู่อาศัยก็ยังคงมีกลุ่มของผู้ที่มีกำลังซื้ออยู่ ซึ่งแนวโน้มที่เกิดขึ้นในการซื้อบ้านแนวราบจะไม่ใช่การซื้อในทำเลใกล้เมือง หรือในเมืองอีกต่อไป เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นจนจับต้องได้ยาก
อีกทั้งที่ดินในเมืองก็ยังหายากเกินกว่าจะทำโครงการได้ ดังนั้นบริเวณชานเมืองหรือย่านที่กำลังพัฒนาจึงกลายเป็นทางเลือกในปัจจุบัน อย่างย่านราชพฤกษ์ก็เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ตอบโจทย์ความต้องการของหลายๆ คน เพราะ ถ.ราชพฤกษ์ สามารถเชื่อมต่อไปยังย่านอื่นๆ ได้อย่างสะดวก ทั้งนอกเมือง หรือวิ่งเข้าสู่เส้นสาทรซึ่งใกล้กับแหล่ง CBD อีกทั้งยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง รวมถึงมีห้างสรรพค้าและ Communities Mall กระจายตัวอยู่หลายแห่งด้วยกัน
ในบทความนี้ Realist จะพาผู้อ่านไปดูโครงการบ้านเดี่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งโครงการในย่านราชพฤกษ์ นั่นคือ The City ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 12-20 ลบ. (อยู่ในระดับ Luxury-Super Luxury) โดยเราจะนำบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการนี้มาวิเคราะห์กันในหลายๆ ด้าน
ทั้งความน่าสนใจของทำเล, การเปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ โดยรอบเพื่อหาคำตอบว่าเงิน 10-20 ลบ. สามารถเลือกโครงการแบบไหนได้บ้างในทำเลนี้, พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน และ Highlight ของตัวโครงการ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาหากผู้อ่านมีความต้องการซื้อบ้านเดี่ยว ในงบประมาณประมาณนี้ครับ
ทำเลราชพฤกษ์ ครบถ้วน อุดมสมบูรณ์ และสะดวกในการเดินทาง

- ทำเลราชพฤกษ์ในบทความนี้ ทาง Realist จะพิจารณาบริเวณโดยรอบที่ตั้งของโครงการ The City ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า ซึ่งอยู่บนถ.บางกรวย-ไทรน้อย โดยถนนเส้นนี้จะไม่ใช่เส้นหลักของย่าน แต่ก็ใช้เดินทางเชื่อมต่อไปยัง ถ.ราชพฤกษ์ ซึ่งตัดอยู่ใกล้ๆ กันในระยะ 350 ม. ทำให้บริเวณที่ตั้งของโครงการสะดวกเป็นอย่างยิ่งในการเดินทาง หากขับจาก ถ.ราชพฤกษ์ไปยังทิศเหนือก็จะไปบรรจบกับ ถ.รัตนาธิเบศร์ ส่วนทิศใต้หากวิ่งลอดอุโมงค์ของวงเวียนพระราม 5 ไปก็สามารถขับตรงยาวไปยังฝั่งสาทรได้
ข้อดีของย่านนี้อย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือ มีความเจริญ และความอุดมสมบูรณ์ที่เหมาะสมแก่การอยู่อาศัย นอกจากเรื่องถนนและทางสัญจรแล้วจุดเด่นอีกอย่างคือ บริเวณเส้น ถ.ราชพฤกษ์ จะมี Community Mall กระจายอยู่ เช่น The Walk Ratchaphruek, The Crystal, Homework Ratchaphruek, The Circle Ratchapruk และ Central Westgate เป็นต้น หรือบริเวณใกล้ๆ โครงการบนเส้น ถ.บางกรวย-ไทรน้อยก็มีตลาดเจ้าพระยา ซึ่งมีทั้งอาหารสดและร้านอาหาร ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งจับจ่ายใช้สอยหลักของคนในชุมชนย่านนี้
2.7 กม.

- The Walk Ratchaphruek
- info : thairath.co.th
3.7 กม.

- The Crytal Ratchaphruek
- info : thecrystal
6.7 กม.

- Central Westgate
- info : SMC
10 กม.

- The Circle
- info : wongnai
โครงการในทำเลเดียวกัน ด้วยงบประมาณไม่เกิน 20 ลบ.

หากทำการเปรียบเทียบโครงการข้างเคียงที่มีราคาใกล้เคียงกัน พบว่ามีอยู่ 3 โครงการด้วยกันที่น่าสนใจ โครงการบนเส้นถ.บางกรวย-ไทรน้อย มี 1 โครงการคือ Casa Premium ราชพฤกษ์-พระราม5 บนเส้นราชพฤกษ์มีอยู่ 1 โครงการ คือ Kuun ราชพฤกษ์ ส่วนอีกโครงการตั้งอยู่บน ถ.ราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 คือ Airi พระราม5-ราชพฤกษ์
ในหัวข้อนี้เราจะนำข้อมูลของ The City ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า มาเปรียบเทียบกับ 3 โครงการนี้กัน เพื่อพิจารณาในด้านราคา, พื้นที่ใช้สอย, สิ่งอำนวยความสะดวก, ความเป็นส่วนตัว และทำเล โดยองค์ประกอบต่างๆ อย่างเช่นหน้าตาโครงการ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ หรือการดูแลของโครงการหลังการขาย ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้ให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน เรามาพิจารณาดูความแตกต่าง ข้อดี-ข้อเสีย ในแต่ละโครงการในหัวข้อนี้กันครับ

- เจ้าของโครงการ : AP
- จำนวนยูนิต : 166 ยูนิต
- จำนวน Type : 5 แบบ
- ขนาดที่ดินเริ่มต้น : 50 ตร.วา
- พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น : 190 ตร.ม.
- พื้นที่ใช้สอยใหญ่สุด : 375 ตร.ม.
- ราคา : 12-20 ลบ.
- ปีที่เปิดตัว : 2018
โครงการ The City ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า เป็นโครงการใหม่ของ AP ซึ่งในทำเลนี้มีคู่แข่งในบ้านระดับ 10 – 20 ลบ. ไม่มากนัก และทำเลก็เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก อาจเป็นหนึ่งในเหตุที่เลือกตั้ง The City ไว้ในทำเลนี้ ตัวโครงการมียูนิตที่ไม่เยอะและน้อยจนเกินไป และทำการสร้างทีละเฟส

- เจ้าของโครงการ : Enrich
- จำนวนยูนิต : 20 ยูนิต
- จำนวน Type : 1 แบบ
- ขนาดที่ดินเริ่มต้น : 50 ตร.วา
- พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น : 350 ตร.ม.
- พื้นที่ใช้สอยใหญ่สุด : – ตร.ม.
- ราคา : 14.9 ลบ.
- ปีที่เปิดตัว : 2018
โครงการเปิดใหม่อีกตัวในย่านของ Enrich ซึ่งตัวบ้านมีหน้าตาที่แตกต่างจากโครงการทั่วๆ ไป เป็นสไตล์ Modern Luxury ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย และราคาเริ่มต้นที่ไม่แพงมาก หากกำลังมองหาบ้าน 3 ชั้น ก็ถือว่าเป็นอีกโครงการที่น่าสนใจ

- เจ้าของโครงการ : Ananda
- จำนวนยูนิต : 63 ยูนิต
- จำนวน Type : 2 แบบ
- ขนาดที่ดินเริ่มต้น : 57 ตร.วา
- พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น : 250 ตร.ม.
- พื้นที่ใช้สอยใหญ่สุด : 275 ตร.ม.
- ราคา : 8-20 ลบ.
- ปีที่เปิดตัว : 2017
ทำเลของโครงการ ตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่ คือ ถ.ราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ซึ่งเชื่อมต่อกับสะพานเจษฎาฯ ที่ใช้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งรัตนาธิเบศร์ได้ อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับ ถ.ราชพฤกษ์ ได้ และด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย รวมถึงที่ดินให้มาค่อนข้างพอดี เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการระดับ Luxury ในย่านที่น่าสนใจ

- เจ้าของโครงการ : Q House
- จำนวนยูนิต : 311 ยูนิต
- จำนวน Type : 6 แบบ
- ขนาดที่ดินเริ่มต้น : 50 ตร.วา
- พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น : 225.9 ตร.ม.
- พื้นที่ใช้สอยใหญ่สุด : 275 ตร.ม.
- ราคา : 7.59-10 ลบ.
- ปีที่เปิดตัว : 2013
โครงการตั้งอยู่บนเส้น ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ซึ่งเป็นเส้นเดียวกับที่ตั้งของโครงการ The City ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า จำนวนยูนิตถือว่าค่อนข้างเยอะ ทำให้ความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านอาจมีน้อยกว่าโครงการอื่นๆ แต่ด้วยราคาที่ไม่สูงนัก เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้านที่เยอะพอสมควร ก็อาจเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าพิจารณา
The City ราชพฤกษ์ – ปิ่นเกล้า สร้างพื้นที่ชีวิตที่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์
วิเคราะห์บ้าน Type City Scenery

โครงการ The City ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า เป็นหนึ่งในโครงการใหม่ของ AP ที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งน่าสนใจว่าทำเลราชพฤกษ์ บนเส้น ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ถึงถูกแบรนด์ AP เลือกทำเป็นโครงการระดับ Luxury เมื่อพิจารณาถึงความสะดวกของเส้นทางที่เข้าจากถนนราชพฤกษ์เพียง 350 ม. และการเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองหรือถนนเส้นหลักอื่นๆ ทั้ง ถ.รัตนาธิเบศร์, การเชื่อมต่อกับฝั่งสาทร หรือ ทางฝั่งตะวันตกที่ใช้ออกต่างจังหวัด ทำให้ในบริเวณที่โครงการนี้ตั้งอยู่ก็ถือว่าเป็นทำเลที่เป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมต่อกับเส้นทางเหล่านั้น
อีกทั้งชุมชนหรือกลุ่มเป้าหมายภายในย่านก็มีกลุ่มที่มีกำลังซื้อตัว Product นี้อยู่ พิจารณาได้จากความสำเร็จของ Communities Mall หลายๆ โครงการที่กระจายอยู่ซึ่งขายสินค้าแบรนด์เนม หรือ ร้านอาหารที่มีแบรนด์ระดับเดียวกับที่อยู่ในเมือง ซึ่งคนในย่านล้วนไปโครงการเพื่อจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าและบริการเหล่านั้น และส่วนใหญ่ก็มี Lifestyle ที่ต้องเดินทางไป-กลับ ย่านนี้ระหว่างบ้านกับที่ทำงานในเมืองเป็นส่วนใหญ่
Type บ้านของโครงการนี้มีทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน โดยทาง Realist จะขอนำ Type City Scenery ราคา 20 ลบ. ซึ่งเป็นหลังใหญ่สุดของโครงการ ที่มีพื้นที่ถึง 375 ตร.ม. มาวิเคราะห์กันในหัวข้อนี้ หลังจากที่เราได้นำไปเปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ ในราคาระดับใกล้เคียงกันมาแล้ว โดย Highlight หลักๆ ของบ้านหลังนี้จะเป็นเรื่องของการจัด Function ภายในบ้านที่ค่อนข้างลงตัว และตอบโจทย์การอยู่อาศัย เนื่องจากพื้นที่แต่ละส่วนของบ้านได้ถูกวางให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
รวมถึงมีการคิดเผื่อไปถึงการใช้งานของผู้สูงอายุ อย่างการสร้าง Ramp ไว้ที่ส่วนทางเข้า เพื่อความสะดวกหากใช้รถเข็น หรือ การออกแบบห้องนอนบริเวณชั้น 1 ให้มีห้องน้ำขนาดใหญ่และรถเข็นสามารถเข้าไปได้ รวมถึงช่องเปิดแต่ละส่วนของบ้านก็ให้แสงสว่างอย่างเพียงพอ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในตอนกลางวัน เราลองมาดูรายละเอียดของแต่ละจุดกันครับ
Product Highlight

1. ห้องรับแขก Double Volume 6.4 ม. สูงโปร่ง อีกหนึ่งมุมโปรดของคนในบ้านและผู้มาเยือน

- ส่วนรับแขกด้านหน้าของตัวบ้าน ถูกออกแบบมาให้มีช่องแสงขนาดใหญ่ยาวขึ้นไปถึงชั้นสองทำให้ได้รับแสงสว่างจากภายนอกอย่างเต็มที่ ความกว้างของพื้นที่ส่วนนี้อยู่ที่ 14.5 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้งาน และด้วยความสูงของเพดานที่เป็น Double Volume ความสูง 6.4 ม. ทำให้มีความโปร่งโล่งน่าใช้สอย
- พื้นที่ในส่วนนี้ สามารถใช้เป็นได้ทั้งส่วนรับแขกและพื้นที่นั่งเล่นของคนในครอบครัว ส่วนบริเวณชั้นสองของตัวบ้านแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับทำงาน หรือมุมพักผ่อนอีกมุมของสมาชิกในบ้าน อย่างเช่นมุมอ่านหนังสือ ก็สามารถทำได้


2. พื้นที่รับประทานอาหาร และส่วนนั่งเล่น Function หลักของบ้าน ถูกออกแบบให้เชื่อมต่อเป็นเนื้อเดียวกัน

- ส่วนรับประทานอาหาร กับพื้นที่นั่งเล่นของตัวบ้าน พิเศษตรงที่ไม่มีฉากกั้นระหว่างกลาง ทำให้พื้นที่ทั้งสองส่วนถูกเชื่อมต่อเป็นเนื้อเดียวกันโดยด้านยาวของพื้นที่ส่วนนี้นับจากชั้นวางทีวีไปจนถึงส่วนเตรียมอาหารกว้างถึง 8.2 ม. และพื้นที่นี้ยังอยู่ติดกับช่องเปิดขนาดใหญ่ทำให้ได้แสงสว่างเพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งเมื่อเปิดออกไปก็จะเป็นสนามหญ้าหรือสวนหย่อม ถือเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้บ้านหลังนี้มีความน่าอยู่อาศัย
- แม้ไม่มี Double Volume ในส่วนนี้แต่ก็ทดแทนด้วยความสูงเพดานขนาด 2.8 ม. ถือว่าเป็นมาตรฐานความสูงที่เหมาะสมสำหรับบ้านจัดสรร และด้วยการวางผังเป็นแนวยาว รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าบวกกับช่องแสงยาวขนานไปกับพื้นที่ ก็ทำให้ผู้ใช้งานไม่ได้รู้สึกอึดอัด และเกิดสภาวะน่าสบายขึ้นในการใช้สอย พื้นที่ส่วนนี้มีขนาดกว่า 49 ตร.ม.



3. ทางลาดสำหรับรถเข็น การออกแบบรายละเอียดเล็กๆ ที่มีความสำคัญ

- Universal Design เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับบ้านพักอาศัย บ้าน Type นี้ก็ไม่ลืมที่จะใส่ใจในรายละเอียด นั่นคือการออกแบบให้มี Ramp เตรียมไว้ใช้งาน สำหรับเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งโดยปกติตามมาตรฐานการออกแบบจะอยู่ที่ 1:12 หมายถึงในระยะความยาว 12ม. จะยกระดับขึ้นไป 1 ม. โดยบ้านหลังนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1:10 แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานของผู้สูงอายุที่ต้องใช้รถเข็น

4. ห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างของบ้าน ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย

- อีกหนึ่งพื้นที่สำคัญของตัวบ้าน คือห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ หรือหากไม่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Function อื่นๆได้ ตามความต้องการ หรือจะเรียกว่าเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ก็ว่าได้ อย่างเช่น ทำเป็นห้องสมุด, ห้องทำงาน หรือห้องออกกำลังกาย เป็นต้น
- จุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่ช่องเปิดขนาดกำลังดีที่รับแสงจากภายนอกเข้ามา กับส่วนห้องน้ำที่มีความกว้างพอที่จะให้ใช้งานรถเข็นภายในได้อย่างสะดวก


5. ใส่ Function เสริม เปลี่ยนชานพักบันไดให้กลายเป็นมุมพักผ่อนเล็กๆ ไว้หลบมาปลีกวิเวก

- ทุกคนน่าจะเคยมีพื้นที่ลับเล็กๆ หรือมุมโปรดที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง โดยเฉพาะในวัยเด็ก เรามักตามหาสักมุมของบ้านเพื่อทำเป็นฐานลับ หรือไม่ก็แอบอ่านหนังสือที่โตเกินอายุ พื้นที่ในส่วนนี้น่าจะตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้
- หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ที่ต้องการหามุมสงบๆ แบบไม่ทางการมากนักเพื่อปลีกวิเวก หรืองีบหลับก็สามารถใช้งานในส่วนนี้ได้เช่นเดียวกัน ด้วยช่องแสงที่สูงจากพื้นถึงเพดาน ก็สามารถทำให้พื้นที่ส่วนนี้ใช้งานได้ในเวลากลางวัน โดยไม่ต้องเปิดไฟ


6. Master Bedroom ที่สุดของความกว้าง ด้านนอกมี Terrace ใหญ่มากก ให้ออกไปนั่งจิบกาแฟเบาๆ ยามเช้า และยิ้มทักทายเพื่อนบ้าน

- ตอบโจทย์คู่รักที่ชื่นชอบการอยู่ในห้องนอนกว้างๆ เพราะห้องนอนใหญ่ของบ้านหลังนี้กินพื้นที่ไปเกือบครึ่งหนึ่งของชั้น 2 เรียกได้ว่า ทุกส่วนในห้องสามารถใช้งานได้อย่างไม่อึดอัดแน่นอน ทั้ง Walk-in Closet ขนาดใหญ่ หากผู้ใช้งานเป็นคนที่นิยมสะสมเสื้อผ้าเป็นคอลเลคชั่นประจำฤดู พื้นที่ส่วนนี้ตอบโจทย์มาก หรือหากว่าไม่ชอบก็สามารถเปลี่ยนเป็นวางเตียงขนาดเล็กได้ หากเป็นครอบครัวที่เพิ่งมีน้องหรือยังต้องการให้บุตรหลานอยู่ใกล้ตัว
- ห้องน้ำก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีขนาดกว้างเป็นพิเศษ และมี Bathtub ให้นั่งแช่นอนแช่อย่างสบายใจ แต่ส่วนนี้ไม่ได้มีช่องเปิดขนาดใหญ่นัก ด้วยเรื่องของความเป็นส่วนตัว แต่ภาพรวมถือว่าน่าใช้งาน
- ระเบียงคือส่วนสุดท้ายที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเป็นส่วนที่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบของบ้านที่น่าสนใจ ความยาวของระเบียงนั้นยาวถึง 12 ม. และกว้าง 2 ม. ทำให้เราสามารถวาง Outdoor Furniture อย่างชุดโต๊ะน้ำชา หรือโซฟาขนาดเล็ก เอาไว้ออกมานั่งปล่อยอารมณ์ยามเช้า หรือนั่งสูบบุหรี่ยามเหงา




Type อื่นๆ ของโครงการ The City ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า
City Spacious
309 ตร.ม.
City Retreat
262 ตร.ม.
City Prive
225 ตร.ม.
City Lux
190 ตร.ม.
ส่วนกลางโครงการน่าใช้สอยไม่แพ้กัน
.สรุปทุกประเด็นของโครงการ The City ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า
- ถ้าได้อ่านทั้งบทความแล้วเลื่อนมาถึงบทสรุปนี้ เงิน 20 ล้านในมือที่คุณกำอยู่เริ่มสั่น ก็อาจเป็นสัญญาณที่ดี สำหรับการต้องเสียเงินให้กับอะไรสักอย่างที่คุ้มค่า แต่หากรู้สึกว่ายังไม่แน่ใจ ก็อาจเข้ามาลองเยี่ยมชมโครงการนี้ดูก่อนตัดสินใจ โดยเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2Lylx2Y หรือเข้าไปลงทะเบียนที่ Website AP Thai
- ภาพรวมของโครงการนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีทีเดียว เพราะปัจจัยต่างๆ ที่ควรต้องพิจารณาในการเลือกซื้อบ้านสักหลังนั้น คงไม่ได้อยู่แค่เพียงหน้าตาของอาคาร ทำเลที่ตั้งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ซึ่งที่นี่นับว่าโดดเด่นมากบนทำเลราชพฤกษ์ รวมไปถึงวัสดุและโครงสร้างของตัวบ้าน ซึ่งโครงการนี้ทำออกมาได้มาตรฐาน ขนาดของบ้านก็ถือว่าเหมาะสมกับราคา อีกสิ่งที่เป็นจุดเด่นของโครงการก็คงเป็นเรื่องของการ Design ตัว Space ภายในให้มีสภาวะน่าสบาย และได้รับแสงสว่างอย่างเพียงพอ
- ในเรื่องของส่วนกลางก็ถือว่าน่าใช้สอยด้วยแนวคิด Luxury is Greenery หากคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาพบปะกับเพื่อนบ้าน ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งนัดพบ ออกกำลังกายร่วมกันหรือ คุณแม่บ้านก็สามารถพาเด็กๆ มาเล่นที่สนามเด็กเล่น แล้วจับกลุ่มกันยืนเมาส์เพื่อนบ้านหลังข้างๆ กัน ก็สามารถทำได้ เนื่องจากบรรยากาศภายในโครงการเอื้อให้เกิดปฎิสัมพันธ์กันระหว่างบ้านแต่ละหลังนั่นเอง
- ส่วนสุดท้ายเรื่องการดูแลหลังการขาย อาจจะต้องลองหาข้อมูลดูโครงการของแบรนด์ AP ก่อนหน้าว่าเป็นอย่างไรบ้างเพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่ก็ถือว่าแบรนด์นี้เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่มีความน่าเชื่อถือในวงการอสังหาครับ